หลวงปู่ทองรัตน์ กนฺตสีโล

ผู้ไร้ร่องรอย! ผู้พยากรณ์อนาคตหลวงปู่ตื้อ
หลวงปู่ทองรัตน์เมื่อออกจากหลวงปู่มั่นแล้ว ก็เป็นผู้มีความไม่อยู่ติดที่เป็นปกตินิสัย
ชอบไปไหนมาไหนตามลำพัง ไม่อยู่ที่ใดนานเกินไป
ด้วยเหตุนี้จึงไม่ชอบสร้างวัด หรือสร้างเสนาสนะถาวร แค่กระท่อมไม้ไผ่หลังคาหญ้าแฝกก็พอ จึงหาร่องรอยของท่านไม่เจอ ตามรอยไม่ได้ คงทราบแค่ว่าองค์ธุดงค์ไปมาจนทั่ว ทั้งพม่า ลาว ไทย แต่ทุกแห่งที่ไปไม่เคยทิ้งรอยไว้ให้คนรุ่นหลังค้นพบ คงมีเพียงสถานที่เดียวเท่านั้นที่ท่านทิ้งรอยไว้ให้คนรุ่นหลังตามพบ คือธาตุอัฐิของท่านเองขนาดเล็กๆที่บ้านโคกสว่าง ซึ่งต่อมาภายหลังจึงกลายเป็นวัดป่ามณีรัตน์ในปัจจุบัน
เพราะความที่ไปๆมาๆรวดเร็ว ลึกลับ โดดเดี่ยว ปลอดเปลี่ยวผู้คน จึงแทบจะหาใครรู้จักองค์ท่านได้ยากมาก
แต่กับครูบาอาจารย์รุ่นใหญ่ ไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก อย่างเช่นหลวงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ ล้วนสนิทชิดเชื้อกัน โดยเฉพาะกับหลวงปู่ตื้อ ถึงกับเย้ากันเป็นว่าเล่น ต่างก็หาได้ถือสาไม่
หลวงปู่ทองรัตน์เคยพยากรณ์หลวงปู่ตื้อเอาไว้ว่า
“ญาท่านตื้อนี่..ต่อไปจะมีชื่อเสียงโด่งดังทั้งบ้านทั้งเมือง”

 

ผู้กล้าและผู้เสียสละ

แม้จะเป็นผู้ที่ไม่ชอบอยู่สถานที่ใดเป็นเวลานานๆ แต่กับการได้อยู่ปรนนิบัติหลวงปู่มั่นนั้นเป็นอีกกรณีหนึ่ง องค์ท่านเมื่ออยู่กับหลวงปู่มั่นแล้ว ได้ช่วยเหลืออนุเคราะห์เพื่อนพระเณรหลายเรื่องอย่างผู้เสียสละเพื่อส่วนรวม
เสียสละอย่างไร
พระเณรแปลกหน้าที่ต่างเดินทางมาสู่สำนักกันใหม่ๆ ยังไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากหลวงปู่มั่นแม้จะพำนักอยู่นานหลายวัน หลวงปู่มั่นหาได้ลงมือเทศนาอบรมไม่ บางรูปทนไม่ได้ บ่นกับหลวงปู่ทองรัตน์
“พ่อแม่ครูบาอาจารย์มั่นท่านไม่เทศน์ไม่สอนเลยรื้อ พวกกระผมคอยนานจนป่านนี้ เห็นทีจะต้องไปจากที่นี่ในไม่ช้า”
“อยากฟังเทศน์หลวงปู่มั่นจริงรึ”
“จริงขอรับกระผม”
“พรุ่งนี้ตอนเย็นได้ฟังแน่”
วันรุ่งขึ้นออกบิณฑบาต หลวงปู่มั่นเดินนำ หลวงปู่ทองรัตน์ตาม รับอาหารจากชาวบ้านมาเรื่อยๆ พอได้แตงกวามาลูกหนึ่ง หลวงปู่ทองรัตน์คว้าแตงกวามาเคี้ยวกินหน้าตาเฉย เคี้ยวเสียงดังจั๊บๆ หลวงปู่มั่นหันมามองก็ทำท่าหยุดเคี้ยวหุบปากสนิท พอองค์ท่านหันกลับไปก็เคี้ยวจั๊บๆต่อไปไม่รู้ไม่ชี้

เย็นวันนั้นก็ได้เรื่อง
หลวงปู่มั่นขึ้นธรรมาสน์เทศน์อบรมเรื่องแตงกวา

อีกคราวหนึ่งคนละห้วงเวลา
กับพระเณรอีกกลุ่ม ต้องการฟังเทศน์หลวงปู่มั่นแบบเดียวกันกับเหตุการณ์นี้ หลวงปู่ทองรัตน์ก็รับรองว่าจะได้ฟังแน่
พอหลวงปู่มั่นเข้ากุฏิจำวัตร ก็มุดเข้าไปซ้อมมวยชกลมฮึดๆฮัดๆอยู่ใต้ถุนกุฏิของหลวงปู่มั่น ทำเสียงชกมวยให้เอะอะมะเทิ่งจนแน่ใจได้ว่ารบกวนองค์ท่านได้แน่จึงเลิก
ปรากฏผลเช่นเดิม
เย็นวันนั้นหลวงปู่มั่นขึ้นธรรมาสน์ทันที

บ้านชีทวน
ถ้าจะพูดถึงว่าให้เกิดเป็นเรื่องเป็นราวต่อเนื่องชัดเจนที่สุด เห็นจะเป็นเหตุการณ์สมัยที่หลวงปู่ทองรัตน์พำนักอยู่บ้านชีทวน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี องค์ท่านอยู่ที่นี่นานพอจะที่จะยังความจดจำแก่ผู้คนที่นั่นได้

ราวๆปี2479 หลวงปู่เสาร์มีบัญชาให้หลวงปู่ทองรัตน์ไปจำพรรษาที่บ้านชีทวน องค์หลวงปู่เสาร์บอกว่า บ้านชีทวนนั้นองค์ท่านเคยพำนักอยู่มาก่อน เป็นบ้านที่มีคนเจ้าปัญญาฉลาดเฉลียวอยู่มาก คนขี้ฮ้าย(ไม่ได้เรื่อง)ไม่เอาไหนก็เยอะ เรียกว่ามีทั้งคนดีและไม่ดีอยู่รวมกันเป็นอันมาก ไม่มีพระรูปใดเหมาะที่จะอยู่ที่นั่นเท่าหลวงปู่ทองรัตน์ แม้องค์หลวงปู่เสาร์เองก็เคยโดนมาหนัก ทิฏฐิมานะของคนที่นั่นไม่ใช่เล่นๆ เรื่องที่จะแค่อบรมสั่งสอนด้วยปากนั้นไม่มีทางสำเร็จ ต้องอาศัยอุบาย ซึ่งถ้าหากไม่ใช่หลวงปู่ทองรัตน์จะรับมือชาวบ้านไม่ไหว

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน