คนคะนองปืนกับพระเครื่อง ภาค 2
เรื่องของพระนาคปรกใบมะขามรุ่นแรกของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร เห็นจะจบไม่ลงอีกแล้วครับ
คงจำได้ถึงจดหมายฉบับหนึ่งซึ่งลงตีพิมพ์เมื่อตอนที่ผ่านมา เป็นจดหมายของ ร.อ.เสริมสุข นรินทรสรศักดิ์ ร.น. เขียนมา CONFIRM การลองยิงพระฤาษีใหญ่รุ่นแรกว่าตัวท่านเชื่อสนิทใจ เพราะตระกูลของคุณจิตณรงค์ คุปตัษเฐียร นั้น ท่านคุ้นเคยเป็นอย่างดี ตระกูลนี้ ถ้าพระไม่แน่จริงต้องขอลองดูก่อนจึงจะนับถือ และท่านปรารภกับผมว่าชอบพระเนื้อเงิน ซึ่งผมก็ได้ส่งพระนาคปรกเนื้อเงินไปให้ท่าน 1 องค์ ทราบว่าถูกใจท่านมาก จนถึงกับมีจดหมายตอบกลับมา ดังนี้
“เรียนคุณอำพล เจน ทราบ
ของคือเหรียญรุ่น 2536 จำนวน 2 เหรียญกับพระนาคปรกเนื้อเงิน 1 องค์นั้นผมได้รับแล้วครับ
ดีใจมากที่ได้รับพระเนื้อเงินสมใจอยากได้ แต่เสียใจนิดเดียวที่พระพักตร์ขององค์พระ (เนื้อเงิน) ที่ส่งมาให้ผมนั้นแตกตั้งแต่อกซ้ายผ่านเหนือริมฝีปากบนด้านขวา ตรงผ่านแก้มและนัยน์ตา ผ่านหน้าผากซีกขวาจรดไรผมขอบหน้าผากหมดสวยเลย
ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างนี้ทุกองค์หรือเปล่าครับ ถ้าเป็นก็เป็นตำหนิขององค์พระที่จะปลอมได้ยาก แต่ถ้าเป็นเฉพาะของผมองค์เดียวก็น่าเสียดายยิ่ง
ผมไม่ได้ต่อว่ามานะครับ แค่ตัดพ้อเท่านั้นเอง ผมจึงไม่ส่งพระมาคืนให้ แต่ได้ส่งเงินเพิ่มมาให้ คือ เดิมผมส่งเงินมาให้ 90 บาท แต่คุณอำพล ส่งเหรียญทองแดงมาให้ 2 เหรียญ กับพระนาคปรกเนื้อเงิน 1 องค์ ราคารวมแล้ว 400 บาท ผมจึงขอส่งเงินเพิ่มมาให้อีก 310 บาท เป็นค่าเหรียญกับพระที่เพิ่มและช่วยค่าส่งเป็น 320 บาท
ขอบพระคุณที่ฝากภาพถ่ายสีมาให้ผมด้วย 3 ภาพ
อ้อ! ผมได้อาราธนาลองพระนาคปรกเนื้อเงินแล้วยิงด้วยปืน .22 (แข่งขัน) ยิงในบ้านผมเอง ด้านทั้ง 3 นัด แต่พอยิงขึ้นฟ้าดังทุกนัด ขนลุกเลยครับ ขอบคุณ คุณอำพล มาก ผมดีใจจังเลย (วันที่ยิงปืน 23 ตุลาคม นี้เองครับ)
นับถือ
“ร.อ.เสริมสุข”
เกี่ยวกับการลองยิงพระนาคปรกของคนคะนองปืนนั้นก็ยังคงมีอยู่อีกรายหนึ่งคือ “เจ้ากบ” ลูกชายของคุณลุงเชาวน์ สืบฤกษ์ อดีตผู้จัดการบริษัทเป๊ปซี่ ได้นำพระไปยิงในบ้านสวนเมืองนครชัยศรี ซึ่งก๊วนนี้เป็นกลุ่มวัยรุ่นวัยคะนอง ได้อ่านพบเรื่องของคุณจิตณรงค์ คุปตัษเฐียร ลองยิงพระฤาษี ก็อยากลองด้วยตัวเองบ้าง มีการนำพระของหลายอาจารย์ไปลองในคราวเดียวกัน
มี 2 อาจารย์เท่านั้นที่ไม่เป็นไร
หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม กับหลวงปู่พรหมา เขมจาโร
นอกนั้นกระจุยหมด
ของหลวงพ่อแช่มที่ต้านปืนอย่างฉมัง คือเหรียญใบเสมา ทองแดงรูปหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ที่ท่านแจกผู้ไปกราบท่านเป็นหอบเป็นกำ อันคนไม่ค่อยสนใจนั่นแหละครับ
วิธียิง
พาดกระบอกปืนกับขอบโต๊ะ วางพระห่างจากปากกระบอกปืน 1 นิ้ว
เสียงปืนระเบิดตูม เขม่าจับองค์พระใบเสมารูปหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมดำปี๋ แต่พระนิ่งเฉยอยู่ไม่เป็นอะไร กระสุนไม่ทราบหายไปไหน
ทีนี้เอาพระนาคปรกเนื้อทองแดงของหลวงปู่พรหมา ขึ้นมาลองในลักษณะเดียวกัน
2 นัดแรกไม่ออก
ถอดกระสุนออกมาดูรอยนกสับจานท้ายลูกปืน บู้ทุกนัด
นัดที่สามระเบิดตูม เขม่าจับองค์พระนาคปรกดำปี๋เช่นกัน พอนัดที่สี่ก็ระเบิดตูมอีก พระกระเด็นไป แต่ไม่มีรอยบุบสลายอะไรเลย
ทีต่อมา เอารูปหล่อรุ่นแรกของหลวงปู่พรหมาออกมาลอง สภาพการลองเป็นเช่นเดียวกัน คือเขม่าจับพระดำปี๋ แต่พระไม่เป็นไร
เอาฤาษีแป พิมพ์ของอาจารย์อนันต์ สวัสดิสวนีย์ สร้างบล็อคไปถวายให้ปั๊มกันเองบนวัดของหลวงปู่มาลองบ้าง พระฤาษีแป กระเด็นไปกับลูกปืน แต่ไม่มีรอยบุบสลายหรือแม้แต่รอยบิ่น ทั้ง ๆ ที่เป็นพระเนื้อผง
เจ้ากบ งัดตะกรุดโทนคาดเอวของหลวงปู่พรหมาออกมา
ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
ตกลงว่าไม่กล้าลองอีกแล้ว
เฮ้อ!
ละเหี่ยใจ
ไม่รู้หลวงปู่จะสิ้นเวรสิ้นกรรมกับการลองยิงพระเมื่อไหร่
ขอร้องเถอะครับ อย่างลองกันอีกเลย ถ้าไม่เชื่อถือท่านหรือไม่แน่ใจของขลังของท่านก็อย่าเอามาแขวนคอให้ใจตัวเองลังเลเปล่า ๆ
หาของที่ตนเองเชื่อใจและนับถือมาแขวนดีกว่า
จะได้ไม่ต้องมีเวรมีกรรมต่อกัน
เรื่องการลองยิงพระห้ามกันไม่ได้หรอกครับ ต้องขอร้องกันอย่างนี้เท่านั้น จะฟังไม่ฟังก็อีกเรื่องหนึ่ง
แต่ว่าบางทีมีผู้มาพูดเหมือนไม่เชื่อแกมท้าทายและดูหมิ่น ผมก็หุบอารมณ์ตนเองไม่ลง สวนออกไปว่าให้ท่านเอาไปลองยิงด้วยมือท่านเองซีล่ะ
เป็นเสียเองเหมือนกัน
ช่างเถอะ….
มาพูดถึงเรื่องพระนาคปรกต่อไปดีกว่า
คงต้องอธิบายเกี่ยวกับพระนาคปรกว่า พระนาคปรกเนื้อเงินที่ ร.อ.เสริมสุข นรินทรสรศักดิ์ พบรอยแตกร้าวผ่าทั้งองค์พระนั้น ความจริงมีอยู่ว่า พระเนื้อเงินรุ่นนี้โดยมากแตกร้าวทั้งนั้น มีน้อยที่ไม่แตก เนื่องจากเงินที่เอามาหลอมปั๊มเป็นองค์พระนาคปรกนั้นเป็นเงิน จาก JEWELRY เก่า ๆ ซึ่งโลหะหมดสภาพที่จะเอามาหลอมให้ดีดังเดิมได้ พอปั๊มออกมาก็แสดงความกรอบของเนื้อโลหะโดยการแตกร้าวอย่างที่ได้เห็น
ผู้ได้รับพระนาคปรกเนื้อเงินไปในสภาพที่สมบูรณ์นับว่าเป็นผู้โชคดี แต่รอยร้าวก็อาจถือเป็นตำหนิกันปลอมได้เหมือนกัน
ทีนี้ก็จะได้ชี้แจงถึงข้อสงสัยของหลายท่านที่มักปรารภว่าทำไมพระนาคปรกรุ่น แรกของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร จึงมี 2 โค้ต คือมีทั้งตอกโค้ตเมล็ดงา และโค้ตตัว อุ
ต้องย้อนไปถึงตอนเริ่มสร้างพระนาคปรกกันใหม่
เจตนาตอนแรก ผมหวังจะสร้างพระนาคปรกขึ้นมาแจกฟรีแก่ผู้อ่านศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งคุณสงวน เกียรติคุณรัตน์ รับเป็นธุระดำเนินการจัดสร้างให้ผม โดยผมต้องการสร้างเพียงเนื้อเงิน เนื้อทองเหลือง และทองแดง คุณสงวนเกิดมีศรัทธาขอร่วมสร้างบ้าง ผมก็อนุโลมตามใจ เพราะคิดจะสร้างแจกฟรี คุณสงวนจึงได้สร้างขึ้นครบทุกเนื้อ คือ ทองคำ เงิน นวโลหะ ทองเหลือง และทองแดง
พระนาคปรกจึงถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน ในจำนวนสร้างที่ไล่เลี่ยกัน คือของคุณสงวน และของผม
ส่วนของคุณสงวนได้นำไปเข้าพิธีวัดบวรนิเวศวิหาร 1 ครั้ง ไปเข้าพิธี 60 พรรษา หลวงพ่อเกษม เขมโก 1 ครั้ง และนำไปถวายหลวงปู่พรหมา ปลุกเสก 1 ครั้ง
ส่วนของผมนำขึ้นไปถวายหลวงปู่พรหมา เขมจาโร ปลุกเสกเพียงองค์เดียว
เรียกว่าเป็นพระเสกหมู่รุ่นหนึ่ง กับพระเสกเดี่ยวอีกรุ่นหนึ่ง
ของคุณสงวน เป็นพระเสกหมู่ ได้ตอกโค้ตตัว……. (อุ) ไว้เป็นเครื่องหมายที่จะสามารถแบ่งแยกกันได้
ส่วนของผมปลุกเสกเดี่ยวได้ตอกโค้ตเมล็ดงาไว้เป็นเครื่องหมาย และได้นำออกมาประกาศให้ผู้ศรัทธาร่วมกันทำบุญทางคอลัมน์สืบหาพระเครื่องดี จนหมดไปในที่สุด
พระนาคปรกทั้ง 2 โค้ตก็ดีทั้งนั้นและครับ
โดนลองยิงทั้งคู่
เฉพาะโค้ตเมล็ดงาที่หลวงปู่พรหมาปลุกเสกเดี่ยวก็ได้อยู่กับท่านในถ้ำนานนับได้ครึ่งเดือน
ท่านได้เล่าให้ฟังว่า คืนแรก ๆ ที่เริ่มปลุกเสกพระนาคปรกนั้น มีงูแปลก ๆ เลื้อยเข้ามาในถ้ำตัวหนึ่ง เป็นงูใหญ่ขนาดรอบ ๆ โคนหัวเข่า มีลายเหมือนงูทำทาน (ภาคกลางน่าจะเรียกว่า งูสามเหลี่ยมกระมัง) แต่ท่านก็ว่ามันแปลกที่หากว่าเป็นงูทำทานตัวใหญ่ขนาดนี้ ความยาวของมันก็ควรจะขนาดนี้ (ท่านทำมือให้ดูประมาณเกือบ ๆ วา) แต่นี่มันยาวสองวากว่า หางอยู่ก้นถ้ำโน่น (ท่านชี้ไป) มันเลื้อยเข้ามาเอาหัวพาดกับกล่องบรรจุพระนาคปรกนิ่งอยู่ พอดีมีพระเข้าในถ้ำ 2 องค์ เห็นงูก็ตกใจกลัว ท่านจึงว่าถ้ากลัวงูก็กราบงูเสียสิ พระก็กราบงู งูก็ยกหัวขึ้น พอพระกราบเสร็จก็ลดหัวลงแล้วเลื้อยไปที่ “คาย” (เครื่องบูชาครู) ของท่านแล้วขดอยู่ตรงนั้น พอประมาณ ตี 2 ก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว
ท่านว่าแปลกดี
ส่วนพระนาคปรกที่ตอกโค้ตตัวอุนั้น ได้นำขึ้นปลุกเสกพร้อมกันกับล็อกเก็ตรุ่นแรกของท่านในวันที่ 29 มิถุนายน ที่สำคัญคือเป็นพระนาคปรกที่มีหลวงพ่อเกษม เขมโก ด้วย
ท่านที่รักหลวงพ่อเกษมก็คงจะอยากได้เหมือนที่ผมแขวนทั้ง 2 โค้ตไว้ในคอด้วยกัน
พูดง่าย ๆ คือท่านชอบมวยหมู่ก็เลือกโค้ตตัวอุ ถ้าชอบข้ามาคนเดียวก็ต้องโค้ตเมล็ดงา
ย้ำอีกทีว่าดีทั้งสองโค้ตแหละครับ
ได้ยินว่าเวลานี้พระนาคปรกเนื้อเงิน หาซื้อด้วยราคาองค์ละ 1,200 บาท ยังหาคนขายยาก ที่ศูนย์พระเครื่องวางองค์ละประมาณ 1,500 บาท
และที่ผมเคยประกาศว่ายินดีรับซื้อคืนทุกองค์ ตอนนี้ผมคงหมดโอกาสซื้อคืน
ใครจะยอมขายราคาเดิม ๆ ให้ผม
เรื่องของพระนาคปรกเห็นจะจบกันได้เสียที
(ปล. ผู้อ่านที่สั่งบูชาพระนาคปรกทางจดหมาย แต่ยังไม่ได้รับพระ กรุณาแจ้งชื่อที่อยู่ไปที่ผมอีกครั้งหนึ่ง มีจดหมายหลายฉบับที่ให้ที่อยู่ไว้ไม่ชัดเจน จนไม่อาจจัดส่งได้ ขอให้ทวงถามกันไป ส่วนผู้อ่านที่ยังไม่ติดต่อบูชา ก็กรุณาอย่างส่งจดหมายไป เพราะว่าพระหมดแล้ว)
ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่ 267
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2537
—————————————————————————-