6/ นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล
ยังมีท่านผู้หนึ่งคือ เรือเอกกวี บุญวัฒน์ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่กรมสื่อสารทหารเรือ ได้เล่าเรื่องการพบเห็นพญานาคอย่างใกล้ชิดให้ฟัง
ประมาณปี พ.ศ. 2531-2532 คุณกวี ยังทำงานอยู่หน่วย นปข. นครพนม ในตำแหน่งหัวหน้าช่างซ่อมอิเล็คโทรนิค ครั้งหนึ่งได้ลาพักร้อนกลับบ้านที่กรุงเทพฯ พอหมดเวลาพักก็เดินทางกลับนครพนมโดยรถทัวร์ ระหว่างเดินทางได้อ่านหนังสือพระ พบเรื่องครูบาอาจารย์พบเห็นพญานาค ก็นึกปรามาสอยู่ในใจว่า พญานาคยังจะมีอยู่จริงหรือ ถ้ามีจริงน่าจะให้ตนเองได้เจอบ้าง จะได้เชื่อว่ามีจริง
หลังจากกลับเข้าทำงานตามปกติในหน่วย นปข. นครพนม แล้ว คืนหนึ่งขณะที่กำลังหลับสนิทก็ต้องสะดุ้งตื่นด้วยได้ยินเสียงอะไรสักอย่างหนึ่งกระทุ้งข้างเตียงนอนจนสะเทือนดังตึง ตึง พอลืมตา คุณกวีก็ช็อคไปทันที
พญานาค 2 ตัว ขดลำตัวขนาดใหญ่ล้อมเตียงนอนคุณกวี เอาไว้ แต่ก็ไม่ทำอะไรคุณกวี เพียงแค่แผ่พังพานชูคอจ้องมองคุณกวีนิ่งอยู่อย่างนั้น
เวลาผ่านไปพอสมควร คุณกวี เริ่มตั้งสติได้และเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ความกลัวก็คลายออกจนถึงกับกล้าเอื้อมมือไปสัมผัสลำตัวของพญานาคคู่นั้น โดยที่พญานาคทั้ง 2 ก็ไม่ได้แสดงอาการขัดขืนแต่อย่างใด
คุณกวีบอกว่า ลำตัวของท่านพญานาคเย็นเฉียบเหมือนสัมผัสน้ำแข็ง และมีลักษณะเลื่อมประกายหลากสีสันปนเปกันอยู่ในเกล็ด คล้ายเห็นรุ้งกินน้ำทำนองนั้น
การปรากฏตัวของพญานาคคู่นี้ปรากฏอยู่นานจนพอจะได้พิจารณาเห็นจนถึงกับว่ามีหงอนแดง และหางแดงด้วย แต่แล้วจู่ ๆ ก็หายวับไปเลยโดยไม่รู้ตัว
คุณกวีได้กล่าวอีกว่า
“ผมขอเอาชื่อ นามสกุล เกียรติ และยศตำแหน่งของผมค้ำประกันว่า เรื่องที่ผมเล่านี้เป็นความจริง ผมยังอยากจะเห็นพวกท่านพญานาคอีกสักครั้ง แต่ก็ไม่เคยพบเห็นอีกเลย”