พระเกษเจดีย์หลวงพ่อชา
ปีที่แล้ว (2541) วงการพระเครื่องได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ ของเคยแพงกลับถูกลงแทบทุกรุ่น ทุกอาจารย์ แต่ดูเหมือนพระเกษเจดีย์หลวงพ่อชาจะไม่เป็นเช่นนั้น มีการซื้อขายกัน 1 องค์ ช่วงกลางปีเป็นเงินถึง 38,000 บาทถ้วน (รวมค่าเลี่ยมทอง) จะเรียกว่าสวนกระแสเศรษฐกิจก็ได้ ไม่ยอมตกว่างั้นเถอะ แถมขึ้นมากกว่าเก่าตั้งเยอะ
นี่เห็นจะเป็นเพราะว่าเป็นของสร้างขึ้นจำนวนน้อย คือประมาณ 700 องค์ และตกอยู่ในเมืองอุบลฯเพียงเล็กน้อย เท่าที่ผมทราบแน่ชัดมีอยู่กับใครบ้างก็ไม่เกิน 10 องค์
ถือเป็นของหายากที่สุดอีกอย่างหนึ่งของหลวงพ่อชา ใครมีไว้นับเป็นบุญตัว จัดว่าเป็นของดีอีกรุ่นหนึ่งที่คนเขาเชื่อถือกันมาก
ดูเหมือนพระเกษเจดีย์รุ่นนี้จะขึ้นชื่อลือชาอยู่ในทางป้องกันตัวเป็นเอก มีข่าวนานมีตั้งแต่สมัยหลวงพ่อแจกใหม่ๆว่าแอบลองยิงดูแล้วได้ผลดี
เมื่อเร็วๆนี้ผู้ใหญ่ที่ผมนับถือว่าเป็นเหมือนน้า ได้มาสอบถามผมว่าจะขายพระเกษเจดีย์หรือไม่ เพราะทราบว่าผมมีอยู่องค์หนึ่ง
ผมปฏิเสธและย้อนถามว่าทำไมหรือ ใครจึงอยากได้
เขาบอกว่าผู้ใหญ่อยากได้ เป็นนายทหารอากาศชั้นผู้ใหญ่ (ขอสงวนตำแหน่งไว้) เพิ่งย้ายมาอยู่อุบลฯเดิมอยู่เชียงใหม่
ได้เห็นกับตาว่าเขาเอาพระเกษเจดีย์รุ่นนี้มาลองยิงด้วยปืน M16 ผลคือไม่ออก จึงรู้สึกอยากได้ ราคานั้นไม่เกี่ยงเท่าไรก็เอา ขอเพียงให้เป็นของแท้
ปกติพระเครื่องหลวงพ่อชาโดยมาก เท่าที่ทราบจากหลายๆปาก เขาว่าแขวนแล้วเย็นสบาย ไม่ค่อยมีเรื่องเดือดร้อน
เห็นจะมีรุ่นนี้แหละครับที่ได้ยินว่ามีชื่อเสียงทางปืนผาหน้าไม้
ผมจำได้ว่าช่างไม้คนหนึ่งเป็นลูกศิษย์รุ่นเก่าของหลวงพ่อ มักถูกหลวงพ่อเรียกใช้ให้ไปช่วยสร้างกุฏิพระสมัยโน้นบ่อยๆ
วันหนึ่งหลวงพ่อถามว่า “เจ้าน่ะได้ขอกันปืนหรือยัง”
เขาบอกว่า “ยัง” หลวงพ่อจึงสั่งว่าให้ไปเอาที่กุฏิท่าน เหลืออยู่องค์เดียวด้วย เมื่อเขาไปขอรับก็ปรากฏว่าเป็นพระเกษเจดีย์รุ่นนี้เอง
หลังจากได้มาแล้วก็เก็บรักษาไว้ตลอด บางทีก็เอามาแขวนบ้าง ถอดบ้าง ตามเรื่องตามราว เคยถูกลูกชายติดกาวขโมยจะเอาไปขาย ก็รู้ตัวตามไปเอามาคืนได้ทัน หวุดวิดจะรักษาไว้ไม่ได้หลายครั้ง จนมาได้เห็นอภินิหารคราวหนึ่ง คือ
ลูกสาวเอาไปแขวนคอ ขี่มอเตอร์ไซค์พุ่งออกจากซอย ตัดหน้ารถ 6 ล้อมอเตอร์ไซค์เละกับที่ ตัวลูกสาวกระเด็นไปร่วม 10 เมตร ไม่ตาย มีแต่รอยถลอกเล็กน้อยที่แขนข้างขวารอดตายปาฏิหาริย์
พระเกษเจดีย์องค์นี้ ผมเคยติดตามไปขอดูและขอซื้อหลายครั้ง เสนอราคาเพิ่มขึ้นทุกครั้ง แกก็ไม่ขาย ทั้งทั้งที่เงินก็อยากได้ ฐานะทางการเงินไม่ดี จัดเป็นคนค่อนข้างยากจนยังหวงแหนขนาดนั้น แกบอกว่าหลวงพ่อสั่งตอนที่ให้พระเกษเจดีย์ว่า
“เจ้ารักษาเอาไว้ให้ดีนะอย่าซื้ออย่าขาย”
ทุกวันนี้ผมยังลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่าแกจะใจอ่อนหรือไม่
มีพรรคพวกหลายคนเห็นผมแขวนพระเกษเจดีย์บ่อยๆอยากจะได้มั่ง สั่งให้หาให้ราคาไม่เกี่ยงเหมือนกัน ผมยังไม่มีปัญญา พระองค์ที่ผมได้มาก็เสียเวลาไปหลายปี ได้มาแล้วก็ไม่เคยเห็นอีกเลย นอกจากที่ทราบว่ามีอยู่กับใครเท่านั้น แต่จะหาเครื่องมืออะไรไปแคะออกมาก็ไม่ไหว เขาหวงกันทุกคน
ใครที่มีญาติพี่น้องเป็นทหารอากาศรุ่นที่จบจากโรงเรียนนายเรืออากาศปี 2517 ลองลองไปค้นที่หิ้งพระดูบางทีจะเห็นเข้าสักองค์ ทราบว่าเขาสร้างเพื่อแจกเป็นที่ระลึกแก่นักเรียนรุ่นนั้น แนะกันได้แค่นี้
ขออธิบายเพิ่มเติมถึงรายละเอียดของพระเกษเจดีย์หลวงพ่อชาอีกเล็กน้อยว่า ของที่แท้จริงนั้นเป็นเนื้อทองแดงปั๊มขึ้นเป็น 2 ฝาทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผู้สร้างสร้างเสร็จก็ไม่ได้จัดการประกบทั้งสองฝาให้เรียบร้อย ได้ยกมาถึงวัดหนองป่าพงในสภาพแบบนั้นจนหลวงพ่อชาออกปากว่า
“เออ เอาภาระมาให้พระเณรอีกแล้ว”
เมื่อพระเณรในวัดจะต้องลงมือประกอบกันเอง ก็ขาดความรู้หรืออาจจะขาดเครื่องมืออย่างใดอย่างหนึ่ง จึงไม่ได้ทำการเชื่อมรอยประกบให้ถาวร คงเพียงอาศัยกาวธรรมดาเชื่อมรอยประกบไว้ เข้าใจว่าจะเป็นกาวหลอดแบบที่นักเรียนใช้ทำการฝีมือส่งครู พอเวลาผ่านไปเนิ่นนานกาวเสื่อมฝาทั้งสองก็หลุดออกมาเป็นส่วนใหญ่
มีคนบอกว่าได้พบองค์ที่ฝาหลุดออกจากกัน ทำให้ทราบว่าข้างในพระเกษเจดีย์มีผงขาวๆบรรจุอยู่ บางคนก็ว่ามีเส้นเกศาบรรจุอยู่ยังสรุปไม่ได้แน่ชัดว่ามีอะไร
องค์ของผมนั้นตอนที่ได้มาใหม่ๆกาวยังติดอยู่ แต่พอจัดการเลี่ยมจะขึ้นคอกาวก็หลุดออก ผมไม่พบว่ามีอะไรอยู่ในนั้นเลย ของคนอื่นจะเหมือนผมหรือไม่ก็สุดจะทราบ ไหนๆก็ไหนๆผมเลยจัดการบรรจุใหม่โดยเอาพระเกษตะกั่วบรรจุไว้พร้อมกับฟันหลวงพ่อ รวมทั้งเกศา เล็บและอังคารธาตุ
กลายเป็นของพิเศษไป
ถ้าคนที่เขามาติดต่อซื้อขอซื้อ พระเกษเจดีย์องค์ที่ผมเป็นเจ้าของ ทราบว่าผมบรรจุอะไรไว้บ้าง ก็จะเข้าใจทันทีว่าทำไมผมจึงไม่ขาย
พระเกษองค์นี้แหละครับพี่ผมแขวนคอตอนไปเมืองจีน และได้ขอน้ำมนต์รักษาตาแดงจนหายขาดในชั่วเวลาแค่ข้ามคืน
ใครไม่เชื่อก็ช่างเถอะผมเชื่อของผม
อย่างไรก็ตามผู้ที่เคารพเลื่อมใสในองค์หลวงพ่อชา และมีกำลังทรัพย์พอจะเป็นเจ้าของพระเกษเจดีย์ได้แล้ว ขอจงโปรดระมัดระวังของปลอมด้วย ถ้าสงสัยว่าจะเป็นของร้ายหรือดีกันแน่ ทุกท่านสามารถติดต่อสอบถามจากผมได้ทางจดหมายและโทรศัพท์ ยินดีจะบอกทุกอย่าง
สวัสดีตลอดปีใหม่เลยครับ
ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ราวปี 2542
ภาพโดย คุณอาร์ตกำแพงเพชร