เหรียญกษาปน์หลังครุฑ ปี ๒๕๑๗, หลวงปู่มงคล เขาดาร์สปวง
สมัยหนึ่งนิยมนำเหรียญกษาปน์เข้าพิธีพุทธาภิเษกแล้วแจกออกไปเป็นทานหรือเป็นของแถม ฯลฯ
คุณ นพ เก้านวะ เพื่อนใน FBได้ชี้ให้เห็นว่า สมัยนั้นอยู่ระหว่างปี ๑๖, ๑๗ และ ๑๘ เช่น พิธีของ หลวงพ่อใหญ่ วัดตาล หล่มเก่า เพชรบูรณ์ มีการนำเหรียญกษาปน์เข้าพิธีเป็นจำนวนมาก
เชื่อได้ว่า เหรียญกษาปน์ ราคา ๑ บาท ที่ออกระหว่างนั้น บางส่วนได้ผ่านพิธีใดพิธีหนึ่งมาแล้ว
เสียแต่ว่าไม่ได้ทำเครื่องหมาย(ตอกโค้ด)ไว้เพื่อรู้ว่าเหรียญใดผ่านพิธีมาแล้ว
เหรียญกษาปน์หลังครุฑ ปี ๒๕๑๗ ดูเหมือนจะเป็นเหรียญที่ได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นพิเศษ
เพราะว่ามีเรื่องของ”พรานสุข” พรานป่าทุ่งกระเซาะ จ.ตาก พกเข้าป่าเป็นเครื่องรางคุ้มตัว และแสดงอภินิหารได้จริง
(เรื่องพิสดารของพรานสุข.. http://travelpangsida.blogspot.com/2014/05…g-post_15.html)
ในส่วนของ หลวงปู่มงคล สัจจาสโภ เขาดาร์สปวง เมื่อหลายปีมาแล้ว ท่านได้จารอักขระคาถาและสูดเสกเหรียญกษาปน์ไว้จำนวนหนึ่ง (ด้านหน้าตอกโค็ต “ม”)
น่าแปลกใจมากๆ … เฉพาะส่วนที่ผมได้รับมาราวๆ ๕๐ เหรียญ เป็นเหรียญ ๑ บาทหลังพญาครุฑ ปี ๒๕๑๗ ทั้งหมด
บางทีเหรียญรุ่นนี้จะมีอะไรพิเศษที่เหล่าครูบาอาจารย์รู้จักกันแทบทุกองค์
เห็นว่ามีสอดแทรกปนเปอยู่บ้างไม่กี่เหรียญ คือ เหรียญบาท ปี ๐๕ หลังตราแผ่นดิน ซึ่งก็ตกอยู่ศิษย์ใกล้ชิดของท่านคนหนึ่ง(ขอสงวนนาม)
หลวงปู่มงคล เป็นหลานแท้ๆของ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง
พำนักอยู่รูปเดียวบนเขาดาร์สปวง ติดชายแดนเขมร ในเขตจังหวัดสุรินทร์
เป็นครูบาอาจารย์ที่รอบรู้สรรพวิชาอย่างน่าอัศจรรย์
น้อยคนจะรู้จักท่าน
เนื่องจากการเก็บตัวเงียบ
ปรารถนาจะอยู่อย่างสงบ
ปราศจากผู้คนรบกวน
ไม่ปรารถนาการมีชื่อเสียง
หลายท่านจะจำได้ว่าองค์เสก “ฤษีกศปมหามงคล” ขนาดตั้งบูชา ก็คือ หลวงปู่มงคล นี่เอง
คุณ ชาติชาย จินดาศรี ชี้แจงเพิ่มเติมว่า
เกี่ยวกับคาถาที่จารลงเหรียญบาทหลังครุฑ ปี 2517
เคยถามหลวงปู่
ท่านบอกว่าจาร กา ละ พา นะ
สี่ตัว จากบทเต็ม
กาละพานะ ปิปปะสะอุ อุตตะมังลาหิ นะโมพุทธายะ จะภะกะสะ
ซึ่งท่านได้ไปเรียนมาจาก หลวงปู่เส็งวัดบางนา ปทุมธานี ซึ่งโดดเด่นเรื่องวิชาพญาครุฑ
หลวงปู่บอกอีกว่าเรียนมาจากหลวงปู่เส็งเพียงวิชาเดียว