ของดีหลวงปู่คำพันธ์

ยังมีพระอยู่พิธีหนึ่ง ที่สานุศิษย์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ควรให้ความสนใจ

พิธีสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีขึ้นเมื่อ 26 พ.ย. 2541 ในพิธีนี้ได้ทำการพุทธาภิเษก พระพุทธรูปบูชา และเหรียญพระพุทธมงคลอุดมเดช

ครูบาอาจารย์ที่เข้าร่วมพิธีหลัก ๆ มี 2 รูป คือ หลวงพ่อบุญมี โชติปาโล และ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ทั้ง 2 รูปไม่ทราบว่าต่างก็มาด้วยกัน

หลวงปู่บุญมีมาก่อนตั้งแต่บ่าย พอทราบว่าหลวงปู่คำพันธ์จะมาด้วย ท่านก็เดินรอบ ๆ กองวัตถุมงคล ปากพูดดัง ๆ ไปเรื่อย ๆ ฟังไม่ได้ศัพท์ ไม่ลงนั่งทำพิธีอธิษฐานจิตแต่อย่างใด เสร็จแล้วก็กลับ

ก่อนกลับได้กล่าวแก่ผู้สงสัยว่า ทำไมท่านดูเหมือนไม่ได้ทำอะไรเลยว่า
ทำให้แล้ว พอหลวงปู่คำพันธ์มา ท่านจะทำต่อเอง

เมื่อหลวงปู่คำพันธ์มาถึงในตอนค่ำ ท่านทราบว่า หลวงปู่บุญมีได้มาก่อนแล้ว ก็ปรารภเชิงเสียดายที่ไม่ได้พบกันแล้วเข้าสู่พิธีพุทธาภิเษกตามลำพัง

เสร็จพิธีหลวงปู่ได้บอกแก่ ศิษย์ว่า พระชุดนี้ดีมาก ให้เก็บไว้

ภายหลังมีผู้เรียนถามท่านว่า หลวงปู่บุญมีทำอะไรไว้ก่อนหลวงปู่จะมา

ท่านว่า
หลวงปู่บุญมี ท่านเปิดทุกสิ่งทุกอย่างไว้ให้ หลวงปู่ไม่ต้องทำอะไร เพียงอธิฐานจิตเท่านั้น

รู้กันเพียง 2 คน คือ หลวงปู่บุญมีกับหลวงปู่คำพันธ์

คำว่า เปิดไม่รู้ว่าเปิดอะไร

ถ้าจะทำสู่รู้ ผมเกรงจะไม่เป็นมงคลแก่กบาลของผม

ตลอดเวลาของการทำพิธีพุทธาภิเษกของหลวงปู่หลวงพ่อแต่ละองค์ ทุกองค์ท่านทราบเองว่าท่านทำได้ดีแค่ไหน ซึ่งไม่ใช่จะทุกพิธี อย่างเช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ให้คำรับรองพิธี 100 ปีของวัดระฆัง หรือ หลวงพ่อชา สุภัทโท บอกว่า เหรียญรุ่นแรกของท่านนั้นดี

ที่ได้ยินชัด ๆ หลวงปู่คำพันธ์ได้ให้คำรับรอง พระกริ่งรุ่นแรก ที่เสกตลอดพรรษา ดูเหมือนจะปี 2532 (ไม่แน่ใจจำไม่ได้) ต่อจากนั้นก็เป็นรูปเหมือนรุ่นแรก ของวัดแก่งตอย และพิธีสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเดชอุดม นอกจากนี้ก็คงจะมีแต่ผมไม่ทราบทั้งหมด

เสียดายที่ไม่มีรูปพระบูชา และเหรียญพระพุทธมงคลอุดมเดชให้ดู
เพราะว่าผมไม่มี
ไปเอาไม่ทัน
ทั้งพระบูชาและเหรียญหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็วเกินไป

(เพิ่งได้รูปเหรียญพระพุทธมงคลอุดมเดชมาจากอินเตอร์เน็ทให้ได้ชมกัน)

ในการทำพิธีพุทธาภิเษก หรือปลุกเสกพระของหลวงปู่คำพันธ์เห็นว่า น่าจะบันทึกไว้พิธีหนึ่ง เพราะว่าได้อยู่ร่วมด้วยตลอดคืน และได้เห็นกับตาตนเองคือพิธีพุทธศักดิ์สิทธิ์รูปเหมือน และเหรียญหันข้างซึ่งสร้างโดย พ.ต.ท.อดุลย์ วรรณสถิตย์ ราว ๆ ปีไล่ ๆ กันกับพระกริ่งรุ่นแรก

พิธีทำกันตอนกลางคืน สมัยนั้นหลวงปู่เสกทั้งคืน ไม่เหมือนตอนหลัง ท่านใช้เวลาอย่างมาก 27 นาทีก็เสร็จ ในตอนนั้นท่านจะเข้าเสกเป็นรอบ ๆ แล้วพักจนกว่าจะสว่าง ไม่ได้นอน ดูเหมือนจะ 4-5 รอบ (จำไม่ได้) ผมก็อดนอนไปด้วยจนฟ้าแจ้ง

ระหว่างพิธีเกิดเหตุอัศจรรย์บนฟ้า ซึ่งเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง และทรงกลด เรื่องแปลกอยู่ที่รัศมีจันทร์ที่เป็นวงทรงกลดนั่นแหละครับ

พระจันทร์ ทรงกลดเป็นวงกลมตามปกติ และคลายวงออกเป็นวงรีรูปไข่ ต่อมาก็มีสัณฐานเป็นรูป 4 เหลี่ยม แล้วในที่สุดเป็นรูป 3 เหลี่ยม อย่างประหลาดใจที่สุด

ไม่ได้ตาฝาด เพราะว่าเห็นกันทั้งวัด

หลวงปู่อธิบายเรื่องนี้ว่า วงกลม คือเมตตา วงรี คือแคล้วคลาด 4 เหลี่ยม คือมหาอุด 3 เหลี่ยม คือคงกระพัน

ผมเห็นว่าแปลกดี

ไม่เคยเห็น และได้ยินแบบนี้มาก่อน

เสียดายว่า ตอนนั้นจนยากลำบากเหลือเข็ญ จึงเก็บได้แค่รูปเหมือน,พระพุทธศักดิ์สิทธิ์ และเหรียญหันข้าง เนื้อเงินอย่างละองค์ ตอนนี้ทุกองค์ที่ได้มาไม่อยู่แล้วครับ คนมาขอไปหมด

ดีใจอยู่ประการหนึ่งด้วยเห็นว่า ตนเองมีวาสนาไม่น้อย ได้สร้างพระถวายท่านมานับไม่ถ้วน (ความจริงนับถ้วน แต่จำไม่ได้) ทั้งคิดสร้างเอง และรับบัญชาจากท่านให้ช่วยสร้าง แม้ส่วนใหญ่จะเป็นการสร้างเพื่อช่วยวัดสาขาของท่าน คือ วัดแก่งตอย ซึ่งเดี๋ยวนี้กำแพงวัดก็เสร็จแล้ว รวมทั้งศาลาการเปรียญ มูลค่า 2 ล้านกว่าบาท ที่เกิดจากคณะศรัทธา ผู้มีเงินช่วยกันทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดด้วยวัตถุมงคล จึงเป็นสิ่งที่น่าชื่นใจสำหรับทุกท่านที่เคยออกเงินทางอ้อมคือ เช่าวัตถุมงคลของหลวงปู่

หลังจากหลวงปู่มรณภาพแล้ว วัตถุมงคลที่วัดของท่านแทบจะหมดแล้วครับ โดยเฉพาะพระที่หลวงปู่บัญชาให้ผมสร้างก็หมดแล้ว ที่ยังเหลืออยู่เป็นตัวอย่างเอาใส่ครอบแก้วโชว์ในตู้ไม่รู้ว่าจะให้คนเช่า หรือไม่ ต้องสอบถามกับทางวัดเอง

ระยะหลัง ๆ มีผู้สอบถามผมมากเกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงปู่ว่า ยังมีอะไรเหลืออยู่กับผมบ้าง แต่ผมตอบไม่ถนัด เพราะไม่ได้สำรวจดูอย่างจริงจัง กระแสอยากจะได้มีมาก ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นการตอบสนอง ยิ่งทำให้เกิดอาการฮึดฮัดฟัดเฟียดยิ่งขึ้น

พระนาคเกี้ยวก็แจกจนหมดไปแล้ว คนขอมาทีหลังก็เสียใจ แม้ทางวัดบอกว่าอยากจะได้ก็ไม่มีให้ รวมแล้วพระ 6,000 องค์ หมดไปได้อย่างไรไม่ทราบ

ผมบอกว่า มีพระนาคเกี้ยวอีกพิมพ์หนึ่ง แต่ทำเป็นรูปพระปิดตา นอกนั้นเหมือนพระนาคเกี้ยวที่กล่าวถึงทุกประการเพียงไม่อาจแจกฟรีได้ จะต้องบูชาเอาในราคา 70 บาท ต่อองค์ พระชุดนี้ทำจากเนื้อชานหมากที่หลวงปู่เคี้ยว และเสกไว้นานปี โดยผู้สร้างคือ คุณพิชย จารุทัศนางกูร

พระปิดตานาคเกี้ยวคงจะพอแทนพระนาคเกี้ยวได้
สร้างน้อยกว่าเยอะและหลวงปู่ก็เสกให้พร้อมกัน

ส่วนพระอื่น ๆ ของหลวงปู่ที่ผมยังเก็บรักษาไว้ คอยให้ทำใจได้เสียก่อนจะนำออกมาเผยแพร่ทีหลัง

เที่ยวนี้ไม่มีรูปพระ ปิดตานาคเกี้ยวให้ดูผัดไว้ทีหลัง ช่วงนี้ผมแข่งกับเวลาอันจำกัดสำหรับบางสิ่ง ไม่สามารถจะทำอะไรที่ประณีตรอบคอบได้

นี่ก็จะต้องตัดบทรีบไปแล้วครับ

สวัสดี

………………………………………………………

ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่ 515 วันที่ 16 มิถุนายน 2547

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน