ไตรรัตน์อุดมมงคลสุข
ไตรรัตน์อุดมมงคลสุข
หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
คุณอภิรักษ์ จุฬาสินนท์ มีหนังสือไปถึงผม เพื่อประชาสัมพันธ์วัตถุมงคลที่ดีเยี่ยมที่สุดอีกรุ่นหนึ่งในรอบปีนี้
เชิญอ่าน
ร่วมบุญกับหลวงพ่ออุตตมะ
ออกพรรษาทุกปี ไม่มีอิ่มอะไรจะเท่าอิ่มบุญเท่ากับที่ได้ร่วมทอดกฐินหรือผ้าป่าซึ่งเป็น กิจกรรมที่เราชาวพุทธได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง
ยิ่งได้ร่วมทำบุญกุศลกับพระมหาเถระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบยิ่งอิ่มใหญ่
มหาเจดีย์พุทธคยา เป็นมหาเจดีย์ที่สร้างไว้เป็นอนุสรณ์ระลึกของหลวงพ่ออุตตมะซึ่งท่านได้ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกามาประดิษฐานไว้ที่นี่
มหาเจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นหลายปีมาแล้วที่ริมฝั่งแม่น้ำรันตี กาลเวลาทำให้มหาเจดีย์ทรุดโทรมลงไป หลวงพ่ออุตตมะจึงมีดำริให้บูรณะปฏิสังขรณ์กันใหม่ด้วยปัจจุบันนี้มหาเจดีย์ พุทธคยาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละ จังหวัดกาญจนบุรีไปแล้ว
ใครมาถึงสังขละต้องมาแวะที่นี่ทุกครั้ง
อีกทั้งยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการเป็นสถานที่เคารพอีกด้วย
การบูรณะปฏิสังขรณ์จำเป็นต้องใช้ทุนทรัพย์จำนวนไม่น้อย
สองลูกศิษย์ซ้ายขวาที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญคือนายวรพร ทองดีเลิศ และ นายอภิรักษ์ จุฬาสินนท์ จึงได้ขออนุญาตหลวงพ่ออุตตมะสร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นพิเศษ
โดยสร้างเพียง 108 ชุดเท่านั้น
เป็นเนื้อนวโลหะอย่างเดียวตามที่หลวงพ่อได้เมตตาแนะนำ
เพื่อมอบแก่ผู้บริจาคทุนทรัพย์สำหรับใช้จ่ายในการบูรณะปฏิสังขรณ์มหาเจดีย์พุทธคยา
ทั้งนี้ปัจจัยจากการบริจาคทั้งหมดจะนำขึ้นถวายหลวงพ่อทุกบาททุกสตางค์ โดยไม่หักค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
พระไตรรัตน์อุดมมงคลสุข 1 ชุด ประกอบไปด้วย
1. พระกริ่งปทุมจักร
2. รูปเหมือนลอยองค์ใหญ่ หลวงพ่ออุตตมะ
3. พระมหาฤษี
วัตถุมงคลชุดพิเศษไตรรัตน์อุดมมงคลสุขทุกองค์อุดผงว่าน 12 พรรษา ของหลวงพ่ออุตตมะที่ท่านได้เก็บรักษา และปลุกเสกตามลำพังนานถึง 12 ปีเต็ม ในพระวิหารหินอ่อนศักดิ์สิทธิ์ทั้งผงวิเศษอื่น ๆ กับผงแร่ปฐวีธาตุจากถ้ำกระแซง
ท่านผู้มีจิตศรัทธาบริจาค 5,000 บาท จะได้รับพระไตรรัตน์อุดมมงคลสุข 1 ชุด (3 องค์) บรรจุในกล่องกำมะหยี่อย่างดี และยังจะได้รับมอบเหรียญ 2 หน้า คือด้านหนึ่งเป็นรูปหลวงพ่ออุตตมะ อีกด้านหนึ่งเป็นรูปพระมหาฤษี จำนวนหนึ่งเหรียญด้วย
วัตถุมงคลทั้งหมดนี้ได้รับการปลุกเสกยาวนานเป็นพิเศษ เฉพาะการปลุกเสกต้องถือว่าเป็นครั้งแรกที่ท่านได้ประจุพุทธคุณด้วยบทธัม มจักรฯ และบทมหาสมัยติดต่อกัน 2 บท ในคราวเดียวกัน
ปกติหลวงพ่อ เมื่อทำพิธีมหาพุทธาภิเษกใหญ่ท่านจะนับประคำเสก 108 เส้นเท่านั้น
แต่ครั้งนื้ท่านนับประคำเสกถึง 216 เส้น อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ส่วนรูปเหมือนลอยองค์เนื้อว่าน ผสมเกศาท่านที่สนใจ บริจาค 500 บาท ก็จะได้รับ 1 องค์
วัตถุมงคลทั้งหมดที่กล่าวถึงนี้ จะเป็นปัจจัยบูรณะปฏิสังขรณ์มหาเจดีย์พุทธคยาทั้งสิ้น
ถือเป็นวัตถุมงคลชุดที่สร้างขึ้นโดยเจตนาอันบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
สนใจติดต่อบริจาคได้ทางไปรษณีย์ที่
นายวรพร ทองดีเลิศ
87 หมู่ 10
ถ.เพชรเกษม
ต.หนองอ้อ
อ.บ้านโป่ง
จ.ราชบุรี 73000
ผู้สะดวกจะไปบริจาคด้วยตนเองที่วัดหรือที่สำนักก็ขอเชื้อเชิญตามอัธยาศัย
อนึ่ง หลายท่านมีจดหมายถามถึงพระบัวเข็มอุดมมงคล เนื้อสัตตโลหะ และพระสังกัจจายน์ หน้าตัก 7 นิ้ว ขอแจ้งให้ทราบว่าทุกรายการหมดแล้ว
หนังสือแสดงรายละเอียดวัตถุมงคลชุดพิเศษมีไปถึงผมเพียงสั้น ๆ เท่านี้ แต่ก็ได้ใจความสมบูรณ์ดี
ขออนุโมทนากับผู้ใจบุญทุกคนที่ร่วมบริจาคทุนทรัพย์บูรณะปฏิสังขรณ์มหาเจดีย์พุทธคยา
ไม่ว่าจะบริจาคชุดใหญ่ 5,000 บาท หรือบริจาคย่อย ๆ 500 บาท
ขอให้มีอานิสงส์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ต่อไปจะได้กล่าวถึงหลวงปู่เปลี้ย คุณสมฺปนฺโน วัดชอนสารเดช อีกเล็กน้อยเกี่ยวกับพระฤษีชอนสารเดชรุ่นแรก ซึ่งคณะศิษย์ใกล้วัดรายงานว่ามีผู้สนใจเดินทางไปบูชากันถึงที่วัดเป็นจำนวน มาก
บรรดาเนื้อพิเศษ และพิมพ์แปลกประหลาดหมดเร็วที่สุด
ทราบว่ายังคงมีเหลือแต่เพียงเนื้อธรรมดา จำนวนเล็กน้อย (ขณะที่เขียนต้นฉบับนี้เป็นวันที่ 16 ธ.ค. 2539 บางทีถึงวันนี้พระฤษีอาจหมดแล้วก็เป็นได้)
ท่านที่สนใจพระฤษีเนื้อพิเศษ แต่พลาดที่วัด
ให้ติดต่อไปที่ผม บางทีอาจมีเหลืออยู่ในขณะนี้
จะให้แน่ใจโทรศัพท์สอบถามก่อนก็ได้ หมายเลข 045-323357
ใครที่ยังลังเลขอให้ตัดสินใจลงไปให้แน่ชัดว่าอยากได้ไว้หรือไม่อยากได้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อพิเศษหรือเนื้อธรรมดาก็ตาม
ถ้าอยากได้ รีบติดต่อไปที่วัดหรือที่ผม
ไม่อยากได้ก็ต้องไม่รู้สึกเสียใจภายหลัง
ปัจจัยทั้งหมดจะเป็นศาลาการเปรียญซึ่งจะเป็นที่พักของหลวงปู่เปลี้ยไปในตัว
โปรดทำความเข้าใจสักเล็กน้อย ขณะที่กำลังบอกว่าพระฤษีอาจมีนั้นเป็นการบอกในวันที่ 16 ธ.ค.
ถึงวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ผู้อ่านกำลังอ่านหนังสือฉบับนี้อาจไม่มีแล้ว
เหตุที่ผมคาดหมายว่าอาจมีนั้นก็เนื่องจากว่ามีจดหมายส่งไปบูชาทางไปรษณีย์ ที่ผมน้อยกว่าทุกครั้ง ทราบแต่ว่าคนแห่ไปเอาด้วยตนเองที่วัด เพราะวัดอยู่ใกล้กรุงเทพฯ
ถ้าจากที่วัดหมดก็อาจเหลือที่ผม ผมจึงพูดเผื่อเอาไว้
ทางโทรศัพท์ก็ติดต่อตามหมายเลขที่ให้ไว้
ทางจดหมายก็ที่เก่า คือ
อำพล เจน
066/2 ถ.กันทรลักษ์
อ.วารินชำราบ
จ.อุบลราชธานี 34190
ต้องทำใจนะครับถ้าหากติดต่อไปแล้วได้รับคำตอบว่าหมด
ผมก็ไม่ควรพูดลักษณะเผื่อเอาไว้ แต่จำเป็นต้องพูด
ท่านที่พลาดจากทางวัดก็จะได้ทดลองดูทางผม
อยากให้สมหวังทุกคน
เมื่อตอนสายของวันที่ 16 ธ.ค. หรือวันที่กำลังเขียนต้นฉบับนี้ คุณณรงค์ มีชีพกิจ โทรศัพท์ไปเล่าให้ผมฟังว่า ได้ปรารภกับหลวงปู่ถึงเรื่องแสงประหลาดที่เกิดขึ้นในภาพถ่าย ท่านก็ได้อธิบายว่า แสงนั้นเกิดขึ้นด้วยอำนาจมนต์คาถาที่ท่านสวดภาวนาอยู่ประจำ
เป็นของเกิดขึ้นเองโดยที่ท่านไม่ได้ตั้งใจให้เกิด
เป็นอีกแง่หนึ่งที่ได้ยินว่าแสงเกิดกันอย่างไร
แต่ผมไม่ติดใจกับรื่องแสงประหลาดหรอกครับ เพราะเป็นคนที่ต่อต้านเรื่องแสงประหลาดอยู่ตลอดมา
โดยมากเป็นแสงโง่ทั้งนั้น ชวนกันงมงายเข้าป่ามากกว่า
แต่พอเกิดขึ้นกับตนเองก็งง ๆ ไปเหมือนกัน
เร็ว ๆ นี้ก็ได้ยินว่าลูกศิษย์หลวงปู่เปลี้ย ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมใหญ่ในโคกสำโรง ขับรถเอาดี้ (AUDI) ไปประสบอุบัติเหตุพังยับเยินทั้งคัน แต่ปลอดภัย คือไม่ได้รับบาดเจ็บเลย
ในตัวมีเหรียญรุ่นรวยทรัพย์ของหลวงปู่เปลี้ยอยู่เหรียญเดียว
เหรียญรุ่นรวยทรัพย์นี้ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเหรียญรุ่น 2 หรือไม่ยังสรุปไม่ได้
คุณณรงค์ได้เล่าให้ฟังว่า มีตำรวจท่านหนึ่งอ่านเรื่องเหรียญปืนแตกหรือเหรียญทศบารมี 38 ก็มาเช่าไปทดลองยิงที่กรุงเทพฯ
ผลคือไม่ออก
จึงเกิดศรัทธาย้อนกลับมาที่วัด และขึ้นไปกราบหลวงปู่บนศาลา
ยังไม่ได้พูดอะไร หลวงปู่ก็กล่าวขึ้นก่อนว่าทีหลังอย่าเอาไปลองอีกนะ
เดี๋ยวปืนระเบิดใส่จะเป็นอันตราย พอลงจากศาลาเพื่อไปเช่าเหรียญทศบารมี 38 เพิ่มเติม ก็ได้เล่าเรื่องลองยิงให้กรรมการวัดฟัง คุณณรงค์ฟังกรรมการวัดเล่าต่ออีกทีจึงเล่าต่อให้ผมฟัง
กรรมการวัดก็ได้เล่าเรื่องปืนแตกอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ นักศึกษาวิชาทหารท่านหนึ่งแขวนเหรียญรุ่นเสาร์ 5 ปี 39 ได้เข้าฝึกภาคสนาม มีการแบ่งพวกกันเป็นสองฝ่ายเพื่อสู้กัน
ฝ่ายตรงข้ามยิงใส่นักศึกษาวิชาทหารท่านนั้น ปรากฏว่าปืนแตกถึงบาดเจ็บต้องหามส่งโรงพยาบาล
ทั้ง 3 เรื่องที่นำมาเล่านี้ ฟังมาอีกที ไม่ค่อยมีน้ำหนัก ผมได้บอกคุณณรงค์ว่าทีหลังใครเล่าอะไรให้ฟังอีก ให้จดชื่อและบันทึกเหตุการณ์ สถานที่ให้ละเอียดเรื่องจึงจะมีน้ำหนัก
ว่าจะรอให้ได้ชื่อผู้ประสบเหตุเสียก่อนจึงค่อยเล่า แต่อดใจไม่ไหว
ฟัง ๆ แล้วก็เห็นว่าหลวงปู่เปลี้ยนี้ท่านไม่ใช่ของธรรมดาจริง ๆ
น้ำหนักจะมากจะน้อยอย่างไร ผมก็เห็นว่าหลวงปู่ท่านอยู่พ้นคำโฆษณาชวนเชื่อในแบบที่เราท่านรู้เห็นกันตลอดในยุคนี้
ลพบุรีไม่ไกลเท่าไหร่วันหยุดไหนว่าง ๆ หาโอกาสไปกราบท่านเถิด
ทีนี้มีรายงานข่าวจากท่านอาจารย์เบิ้มเข้ามาว่า ตอนนี้พระฤษีอริยธาตุของหลวงปู่คำพันธ์กำลังฮือฮากันใหญ่ในหมู่พวกลำตัด แต่เสียดายที่ไม่ทราบว่าไปเจออะไรเข้าทราบแต่ว่าพวกลำตัดแห่กันค้นหาพระฤษี อริยธาตุจนกระทั่งทำให้อาจารย์เบิ้มพลอยตื่นไปด้วย
ส่วนหลวงพ่อทวด รุ่นคุณสุชินสร้างก็ไม่ทราบว่าทางขอนแก่นไปเจออะไรเข้าอีกเหมือนกัน
ทราบแต่ว่าได้บุกไปเหมาหลวงพ่อทวดจนหมดวัดธาตุมหาชัยของหลวงปู่คำพันธ์ใน คราวเดียวทั้งยังสั่งกับเจ้าหน้าที่ดูแลวัตถุมงคลที่วัดอีกว่า ถ้ามีหลวงพ่อทวดอีกก็เอาหมด
จึงอยากส่งข่าวถึง คุณซู่เที๊ยว เมืองขอนแก่น ให้ติดต่อผมด้วย เพื่อฟังข่าวหลวงพ่อทวดที่ต้องการเพราะว่าผมติดต่อคุณซู่เที๊ยวไม่ได้ผล
อีกท่านหนึ่งผมนึกชื่อไม่ออก ไม่มีเวลาค้นจดหมาย ได้เขียนบอกเป็นนัยมาจากราชบุรี หรือนครปฐมนี่แหละว่าได้อาศัยมหาฤษีพรหมอุตตมะ รุ่น 7 และ 8 ช่วยให้รอดพ้นจากการถูกลอบยิง 2 ครั้ง ในคราวเลือกตั้ง สส. ที่ผ่านมา
เฉพาะรายนี้ผมมีจดหมายไปถึงแล้วว่าขอให้เล่ารายละเอียดไปให้ผมทราบด้วยถ้าไม่ลำบากจนเกินไปจะได้เอามาเล่าต่อ
ฤษีรุ่น 7 – 8 ที่ผมเรียนว่าจะนำลงกรุเจดีย์ธาตุมหาชัยนั้นเกิดผิดพลาดไม่ได้ลง
เนื่องจากว่าหลวงปู่คำพันธ์เปลี่ยนกำหนดลงกรุเร็วขึ้นเป็นลงกรุในวันที่ 24 พ.ย. ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเหตุว่าองค์พระสังฆราชศรีลังกาเดินทางมาที่วัดในวัน นั้น ท่านจึงตัดสินใจเปลี่ยนกำหนดการมาเป็นวันนั้นเลย
เมื่อไม่ได้ลงกรุมหาฤษี รุ่น 7 – 8 จึงยังอยู่ แต่ก็จะนำถวายท่านอาจารย์เวทย์ วัดแก่งตอย สาขาของหลวงปู่คำพันธ์ ดำเนินการลงกรุที่วัดแก่งตอยแทน
จึงแจ้งมาเพื่อทราบเพื่อผมจะพ้นมลทินมุสา
ใครมีอะไรดี ๆ จะเล่าให้ผมฟังบ้างก็ได้นะครับ
อันไหนเห็นเข้าทีจะเอามาเล่าต่อให้คนทราบด้วย
ตลอดปีที่ผ่านมาผมอยากกล่าวคำขอบคุณทุกท่านที่ทุ่มเททั้งกายใจในการบุญสุนทานทั้งปวงตามกำลังมากน้อยต่าง ๆ กัน
ปีนี้ก็อยากเพิ่งถอดใจเสียก่อน แม้หลายคนจะบอกว่าบุญที่ทำไปช่างเห็นผลช้าจริง ๆ ถึงแม้ผลบุญจะปรากฏให้เห็นบางทีก็ไม่รู้สึกว่าบุญมีผลแล้ว
ถ้าในแง่ของนามธรรม ผลบุญปรากฏทันทีที่ลงมือทำบุญเสมอ จิตใจจะเอิบอาบขึ้นอย่างที่เกิดกับใครแล้วจะรู้จักว่า ปิติแห่งบุญนั้นเป็นเช่นไรเสมอ
เอาแค่รู้สึกอยู่ในใจตนเองว่าบุญเป็นบุญก็วิเศษสุดแล้วครับ
ผมก็จะตั้งใจทำของผมต่อไป
มีโอกาสทำร่วมกันก็ทำ
จะทำกันไปตามลำพังแบบตัวใครตัวมันก็ไม่ผิดกติกาอันใด
จะทำแบบคนขี้เหงาหาคนตักบาตรร่วมขันสักคนก็ไม่ผิดเหมือนกัน
งานเขียนของคุณอาอำพล เจน หนังสือศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่ 338
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2540
———————————————————————–