อุทกภัย
ไม่อยากคิดว่าอุทกภัย ๘ จังหวัดภาคใต้ที่ทำให้คนตายและบาดเจ็บหลายร้อยคน รวมทั้งผู้ประสบความเดือดร้อนอีกนับแสนคนนั้น เกิดขึ้นเพราะการตัดไม้ทำลายป่า
แต่บางแห่งที่น้ำลดระดับลงแล้ว กลับมีการค้นพบไม้ลึกลับจำนวนมากซึ่งไม่อาจบอกได้ว่าเป็นไม้ลักลอบหรือไม้ถูกต้องตามกฎหมาย
มองจากภาพถ่ายทางอากาศยังได้เห็นไม้ซุงกองพะเนินอยู่หย่อมโน้นหย่อมนี้ทั่วไปในพื้นที่อันมหาศาล
คุณชวน หลีกภัย บอกว่าน่าจะนำไม้เหล่านี้ยกให้ราษฎรเอาไปแปรรูปทำบ้านเรือนอาศัยแทนที่เสีย หายยับเยินเพราะน้ำท่วม และผมก็เชื่อว่าคงจะทำบ้านครบหรือเกือบจะครบทุกครอบครัวทีเดียว เพราะเห็นได้ว่าไม้ที่ถูกโค่นกระจัดกระจายอยู่ตลอดพื้นที่ป่านั้นมีมากมาย จริง ๆ
ครับ, น้ำลดตอผุด
เรื่องตัดไม้ทำลายป่านี้ ต้องยอมรับกันว่าได้เกิดขึ้นแล้วตลอดมาและไม่มีทีว่าจะหยุดยั้งไปได้แม้ป่าจะเหลือน้อยจนน่าตกอกตกใจ
แต่ก็ไม่มีใครตกใจใหญ่ ๆ สักคน
ถ้ามีคนตกใจใหญ่ ๆ จนสะเทือนไปทั้งแผ่นดินได้ ไม้ในป่าก็คงจะไม่ต้องถูกตัดทำลายไปอีก
ในขณะที่ความตื่นตัวเพราะสำนึกคุณการมีป่าได้เกิดขึ้นทั่วภาคอีสาน โครงการที่จะต้องควักสองหมื่นล้านมาพลิกแผ่นดินแตกระแหงให้เขียวชอุ่ม กลับไม่มีใครสำนึกถึงแผ่นดินที่กำลังเขียวชอุ่มอยู่แล้วให้คงสภาพนั้นต่อไป
ผมยังคงเห็นรถชักลากซุงไม้สักขนาดใหญ่ วิ่งสวนทางออกมาจากแม่สะเรียง ทุกครั้งที่ผมเดินทางเข้าไปแม่ฮ่องสอน
รถลากซุงจอดพักรอเวลาห้ามเข้าอยู่ตรงชานกรุงเทพฯ
แพซุงยังล่องเจ้าพระยาลงมาถึงใบเลื่อยบางโพ
คิดไม่ออกจริง ๆ ว่า วิธียุติคมขวานใบเลื่อยนี้ จะต้องทำอย่างไร
ทำไมจึงคิดกันไม่ออก
ถ้าจะมองในแง่ร้าย ก็ต้องบอกว่ายากจริง ๆ เพราะมันเป็นเรื่องของเงิน, อิทธิพลขนาดบักใหญ่เบ้อเริ่ม
สังเกตุไหมครับว่า อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเงิน, อิทธิพล แล้วเอาตัวคนผิดมาลงโทษไม่ได้ง่าย ๆ หรือไม่มีทางจะพบคนผิดพอจะลงโทษได้
อย่าไปนึกอื่นไกล นึกใกล้ ๆ แค่คดีใหญ่ ๆ ที่ผ่านไปหมาด ๆ ถึงจะมีการจับกราวรูดไปทั้งกอง สอบสวนเรียงตัวเป็นเดือน ๆ ก็ยังเอาผิดไม่ได้แม้แต่คนเดียว
แถมมีคนฆ่าตัวตายให้เหมาว่าเขาผิดคนเดียวอีกด้วย
เหมือนรถคว่ำและคนตายคือโชเฟอร์ว่างั้นเถอะ
ถ้าผู้ต้องหามีเงิน 200 บาท โอกาสติดคุกมีมากกว่า 200 เปอร์เซ็นต์
แต่ถ้าผู้ต้องหามีเงิน 200 ล้านบาทโอกาสหลุดคดีเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องมีมากกว่า 200 ล้านเปอร์เซ็นต์
คุณเชื่อหรือไม่
อะไรมันจะขนาดนั้น อุทานกันไปเถิด
ต่อไปนี้จะขอโปข่าวไปสู่ชาวอีสานจักหน่อย
ขณะนี้บางแห่งคงเก็บเกี่ยวบ้างแล้ว บางแห่งอาจกำลังเก็บเกี่ยว และบางแห่งกำลังลับเคียวรอเกี่ยว แต่หลังจากเกี่ยวข้าวในนาเสร็จสิ้นแล้ว คนอีสานทั้งหลายมักไปจากบ้านตนเองเพื่อแสวงงานและเงินระหว่างฤดูแล้งกัน เกือบทุกคน
บางคนไปรับจ้างกรีดยางปักษ์ใต้, บางคนไปลงเรือประมงในทะเล, บางคนไปขุดพลอยเมืองจันทน์, บางคนไปรับจ้างปลูกมันทางตะวันออกหรือแม้แต่ไปขอทานก็มี
มีคนอีสานมากมายไปแล้วไปลับไม่กลับบ้านตลอดกาล
เนื่องจากว่าพวกเขาไปในสถานที่ซึ่งการกลับบ้านเป็นสิ่งที่เจ้าของสถานที่ยอมไม่ได้
สถานที่อย่างนั้น เจ้าของอย่างนั้นยังมีอยู่อีกหรือ
คำตอบคือมีแน่นอน
เราไม่พูดถึงการประสบอุบัติเหตุสุดวิสัยถึงล้มตาย นั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดาเกินไป เป็นของสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกภาคทุกชั้นทุกภูมิ
ผมเคยพบกับหนุ่มอีสานบนรถบัสสีแดงซึ่งเดินทางจากหมอชิตปลายทางอุบลราชธานี หนุ่มคางเหลี่ยมจมูกหักหล่อแบบบ้านเฮา มีดวงตาหวาดระแวงและทำตัวลีบไม่มีขวัญอยู่ในตัว ผมสัมผัสเขาได้เพราะนั่งติดกันตรงม้ายาวข้างหลังและออกจะสนใจเอามาก ๆ ว่าไปทำอะไรมา เป็นคนร้ายหรือเปล่า เป็นคนโรคประสาทหรือไม่
หนุ่มอีสานเล่าว่าเพิ่งหนีออกมาจากไร่มันสำปะหลังในเมืองชลฯ เพื่อนร่วมหนีอีกสองหรือสามคนก็จำไม่ได้ถนัดถูกยิงตายไปแล้วในไร่มัน
ไม่ได้ลักขโมยของเจ้านายเลยเพียงแค่ทนสภาพงานหนักเกินไปไม่ไหว ซึ่งทุกคนโดนใช้งานปานวัวควายไม่ผิด ขอกลับบ้านไม่ให้กลับ พอหนีกลับก็มีมือปืนไล่ยิง
ตายกันเยอะแยะแล้วในไร่มันนั้น
เรื่องนี้ผมเคยเล่าไปครั้งหนึ่งนานมาแล้ว และเป็นเรื่องที่ผมได้ยินจากปากหนุ่มอีสานมาประมาณเกือบสิบปี
นึกว่าเดี๋ยวนี้จะหมดเรื่องอย่างนี้ไปแล้ว
ปรากฎว่า พ.ศ. นี้ยังมีเรื่องฆ่าคนงานอีสานที่ขอกลับบ้านเกิดขึ้นอีกที่เมืองแปดริ้ว แถว ๆ พนมสารคามเขาหินซ้อน พนมไพร
อยากรู้ว่าเป็นที่ไหนก็ต้องเดาล่ะครับ เพราะผมจะไม่บอก ใบ้ให้หน่อยหนึ่งก็คือบริเวณที่มีเจ้าพ่อเจ้าแม่แยะ ๆ นั่นแหละครับ
มีตำนานว่าบ่อน้ำแห่งหนึ่ง ในสถานที่แห่งหนึ่ง ในลานมันแห่งหนึ่งก้นบ่อน้ำมีคนงานนอนสงบอยู่หลายคน
เป็นคนที่คิดกลับบ้านทั้งนั้น
คนในพื้นที่ดังกล่าวรู้ดีเท่า ๆ กับผู้รับผิดชอบรู้ดีแหละครับ รู้แต่ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันไปหมด
ทุกครั้งที่วงศ์ว่านเครือเจ้าพ่อเจ้าแม่มีอันเป็นไปในรูปแบบใด ๆ ก็ตาม
ชาวบ้านแถวนั้นยกมือท่วมหัวแผ่นดินสูงขึ้นอีกนิด…สาธุ
คงพูดขู่พี่น้องบ้านเฮาได้แค่นี้แหละ
อย่าไปเลยไร่มัน ขึ้นชื่อว่าไร่มันให้ระวังไว้เถอะ แม้ว่าจะไม่เป็นไร่มันทุกไร่ในประเทศไทย แต่ให้เตือนตนเอาไว้ว่าต้องไม่มาแถวนี้ เดี๋ยวจะไม่ได้กลับบ้านกันเท่านั้น
ทางที่ดีอยู่กับบ้านคอยช่วยสร้างสรรบ้านเฮาร่วมกับโครงการอีสานเขียวเป็นดีที่สุด
ขอร้องเถอะอ้ายเถอะเอื้อย เพื่อเห็นแก่ชีวิตและครอบครัวตัวท่านเอง
งานเขียนของคุณอาอำพล เจน … จากหนังสือแปลก ฉบับที่ 667
วันที่ 6 ธันวาคม 2531
————————————————————————