มหาฤาษีรุ่น 8
หมายเป็นรุ่นสุดท้าย รุ่น 8 แห่งพระมหาฤาษีพรหมมุตตมะ
เลข ๘ คือ อัฏฐะอรหันตา
เคยประหลาดใจกันบ้างไหมครับ พุทธพานิชย์ทุกวันนี้ช่างเร้าใจพิลึก
กลยุทธ์การขายดูไม่สะอาด เกลื่อนกล่นด้วยความมดเท็จปลิ้นปล้อน สับปรับหลอกลวงหรือเข้าข่ายต้มตุ๋นกันก็เอา
ขอแต่ขายพระให้ได้
วัตถุมงคลหรือของขลังทั้งปวง ล้วนสำเร็จด้วยอำนาจแห่งการประพฤติศีลปฏิบัติจิตจนบริสุทธิ์ของผู้พากเพียรอยู่ในป่าเขา
ไม่เห็นแก่เป็นหรือตาย จึงได้จิตขลังมาเสกของขลัง
เรียกว่าเป็นของที่สำเร็จขึ้นด้วยความดีงามของท่านทั้งปวง
แต่วิธีการขายของศักดิ์สิทธิ์ที่ดีงามนั้น กลับเป็นตรงกันข้าม ไม่ค่อยสะอาดสักเท่าไหร่
ชวนกันเป็นรถเมล์ สองแถว หรือเป็นเหล่า 18 มงกุฏประจำสถานีขนส่งเข้าไปทุกที
ความชั่ว คนชั่วทำได้ง่าย ความดี คนชั่วทำได้ยาก
ความดี คนดีทำได้ง่าย ความชั่ว คนดีทำได้ยาก
ปลดปลงยังงี้ไปก็แล้วกัน…
ถ้าจะถามถึงพระมหาฤาษีรุ่น 8 ว่าผมหมายให้เป็นรุ่นสุดท้ายที่ผมจะสร้างจริงหรือ
จริง
คำตอบที่ดูเป็นจริงวันนี้ยังต้องรอการพิสูจน์เพื่อแสดงสัจจะในวันข้างหน้า
หลายคนรำพึงว่าหน้าเสียดาย ไม่เห็นว่ามีเหตุอะไรที่จะต้องหยุด แม้แต่หลวงพ่ออุตตมะเองเมื่อคุณอภิรักษ์กราบเรียนท่านว่า ฤาษีรุ่น 8 จะเป็นรุ่นสุดท้ายแล้ว
ท่านเอะอะว่า…เฮ้ย – เฮ้ย
แต่นั่นไม่ได้หมายถึงว่าพระมหาฤษีรุ่น 8 จะเป็นรุ่นสุดท้ายของหลวงพ่ออุตตมะ
ผมหมายให้เป็นรุ่นสุดท้ายที่ผมจะสร้างถวายหลวงปู่พรหมา
รุ่นสุดท้ายจริงๆ
พระมหาฤษีรุ่น 7 ถือเป็นครั้งแรกที่หลวงพ่ออุตตมะท่านเสกให้
จึงเกิดเป็นฤาษี 2 อาจารย์เป็นครั้งแรก
และรุ่น 8 ก็เป็นครั้งที่ 2
แต่พระมหาฤาษีที่หลวงพ่ออุตตมะจะได้เสกเดี่ยวๆตามวิธีของท่านยังไม่มี ซึ่งจะต้องฟังความคิดเห็นจากคุณวรพร ทองดีเลิศ และคุณอภิรักษ์ จุฬาสินนท์เสียก่อน ถ้าทั้งสองท่านมีบัญชาไปถึงผม ก็ย่อมคืออุบัติแห่งพระมหาฤาษีตะวันตก
ฤาษีสุดแดนพม่า !
นั่นยังไม่ใช่เรื่องที่จะพูดถึงในขณะนี้ มันอยู่ไกลตัวเกินกว่าจะให้เป็นหัวข้อสนทนาในวันนี้
เรื่องที่จะพูดถึงก็คือ ที่หมายสุดท้ายของพระมหาฤาษีของหลวงปู่พรหมา ที่สร้างโดยกลุ่มสานุศิษย์ฝ่ายของผม ที่ถกกันไม่เสร็จว่าควรหยุดที่รุ่น 9 แต่ทำไมผมจึงต้องหยุดที่รุ่น 8
ผมเข้าใจดีถึงเจตนาจะให้เลิกที่รุ่น 9 แต่เลข 8 นั้นนับว่าเลิศหนักหนา คือ อัฏฐะอรหันตา
[ใต้ฐานมีตรายาง เป็นฤาษีที่หลวงปู่คำพันธ์เสกร่วมด้วย]
ถือว่าเหมาะควรแก่เพศพระมหาฤาษี หรือจะพูดจนเลยเถิดก็คือ นิมิตหมายถึงการบรรลุเป็นพระอรหันต์ในวันหน้า
ก็สุดแต่จะเลยเถิดไป
นัยหนึ่งคือใครต่อใครต่างแย่งกันเป็นรุ่นแรก พยายามทุกวิถีมรรคเพื่อให้วัตถุมงคลของปวงท่านเป็นรุ่นแรก แต่สำหรับพระมหาฤาษีของหลวงปู่พรหมมา ปวงท่านแย่งชิงความเป็นรุ่นแรกไม่สำเร็จ ที่มีจิตใจคับแคบ ก็พยายามว่ากล่าวอย่างไรก็ได้เพื่อให้เกิดมลทินแก่พระฤาษีรุ่นแรก
ซึ่งรวมถึงทุกรุ่นที่ได้ทำมา
คงจะเข้าทำนองตรวจยาโด๊ปในนักว่ายน้ำจีนให้พบ เพื่อเหรียญทองจะได้ตกเป็นของคนถัดมาในฮิโรชิมาเกมส์
พระมหาฤาษีรุ่นแรกกลับเป็นเสมือนกลองใบใหญ่ ยิ่งตี ยิ่งดัง
เปิดรุ่น 9 ให้เป็นช่องโหว่เสียเถิด เพื่อให้ท่านทั้งปวงที่มุ่งสู่ภูกระเจียวได้แย่งชิงแทนรุ่นแรกก็แล้วกัน
รุ่น 9 นั้นดีนักหนา คือพระนวหรคุณ ใครชิงทำขึ้นก่อนก็ควรค่าแก่ความภูมิใจ
ขอเชิญ ผมสละสิทธิ์แบบขาดตัว คือไม่ได้มีข้อต่อรองแก่ตนเอง
เกี่ยวกับพระมหาฤาษีรุ่น 8 นั้น ได้บอกกับทุกคนที่ใกล้ชิดว่า จะให้เป็นรุ่นสุดท้ายที่ได้ทำขึ้นถวายหลวงปู่พรหมมา
และจะไม่ทำอะไรอีก นอกจากหลวงปู่มีบัญชามา สั่งให้ทำ
แต่ถ้าทำตามท่านสั่ง ก็จะต้องเป็นวัตถุมงคลรูปอื่น ไม่ทำรูปฤาษี
ถ้าเป็นรูปฤาษีแล้วเป็นอันว่าให้จบที่รุ่น 8
ประหนึ่งหลวงปู่จะล่วงรู้ ท่านกล่าวกับผมในวันที่ 10 ธันวาคม 2537 ซึ่งเป็นวันที่นำพระมหาฤาษีรุ่น 8 ขึ้นไปเสกบนถ้ำผานางคอย
ท่านสั่งให้ผมทำพระปิดทวาร โดยไม่สั่งให้ทำพระมหาฤาษีอีก
ท่านกำหนดแบบให้ทำพระปิดทวารตามลักษณะเดิมของพระปิดทวารงาแกะสลักของพระ อาจารย์ของท่านคือสำเร็จลุน ผมก็รับปากว่าจะทำ แต่ยังไม่มีกำหนดว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ
นี่นับว่าเป็นเรื่องแปลกที่ท่านสั่งอย่างนั้น
ผมไม่ได้กราบเรียนท่านด้วยว่าจะทำพระมหาฤาษีรุ่น 8 เป็นรุ่นสุดท้าย เพียงกำหนดปณิธานมั่นไว้กับตัวเอง และบอกกล่าวแก่คนใกล้ตัวเท่านั้น
ทุกวันนี้ก็ไม่ได้กราบเรียนท่านแต่อย่างใด
ผมคิดว่าท่านคงเข้าใจดี พระมหาฤาษีรุ่น 8 เป็นรูปลักษณ์ของมหาฤาษีผอมที่ผมนึกอยากทำมาเนิ่นนานแล้ว เมื่อได้ทำขึ้นในรุ่น 8 ก็ถือว่าความปราถนาของผมบรรลุผล และปราถนาอะไรอื่นนอกจากนี้ก็ไม่มีอีกในเรื่องของพระมหาฤาษีหลวงปู่พรหมา อิสีขลังองค์นั้น
8 รุ่นนับว่ามากพอสมควร และบรรดานักเลงพระเครื่องไม่อาจกล่าวคำว่า “ฤาษีเกร่อ” ให้สะเทือนใจกัน
8 รุ่นให้เป็นมงคลแก่ผู้ศรัทธาสะสมกันสืบไป ให้เป็นที่พึ่งของผู้มีวาสนาทุกคน และให้ถอนใจโล่งอกแก่ปวงท่านที่มุ่งขึ้นสู่ภูกระเจียวในวันนี้
มวลสารพระมหาฤาษีรุ่น 8 เป็นอย่างเดียวกับพระมหาฤาษีพรหมุตตมะรุ่น 7 ทุกประการ หากแต่เพิ่มผงดอกไม้บูชาพระแก้วมรกต (ดอกบัว) และดินใต้พิภพระดับลึก 30 เมตร เพื่อเน้นธาตุดินให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
ทุกสรรพสิ่งล้วนคืนให้กับดินทั้งสิ้น แม้น้ำก็เคยอยู่ในดิน แม้ลมก็เคยอยู่ในดิน แม้ไฟก็อาศัยดินเป็นเชื้อ ผมจึงชอบธาตุดิน
หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เมตตาปลุกเสกให้กับงานทิ้งทวนของผม ตั้งแต่ 4 ทุ่ม 18 นาที ถึง ตี 4 กับ 28 นาที คืนวันที่ 10 ธันวาคม 2537 ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 1 ปีจอ และยังตรงกับวันรัฐธรรมนูญอีกด้วย
แถมด้วยโหราพยากรณ์อีกหน่อยว่า เด็กที่เกิดตรงกับวันนี้ ท่านว่าจะเข้มแข็งอดทน เป็นคนรักความยุติธรรม และดำรงค์อาชีพเกี่ยวกับกฏหมาย ทนายความ หรือผู้พิพากษาเป็นอันเหมาะที่สุด
สาธุ สาธุ
หลวงพ่ออุตตมะ อุตตมะรัมโภ กำหนดเสกไว้ในคืนวันที่ 29 ธันวาคม 2537 (ขณะเขียนต้นฉบับนี้เป็นวันที่ 20 ธ.ค. 2537) ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดี แรม 12 ค่ำ เดือน 1 ปีจอ
เด็กที่เกิดวันนี้ เป็นคนที่มีความคิดและเป็นผู้ใหญ่เกินตัว ค่อนข้างจะมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ อาชีพที่เหมาะสม เกี่ยวกับพวกช่างฝีมือ หรือช่างซ่อมแซมต่างๆดี
สาธุ สาธุ
พร้อมพระมหาฤาษีพรหมมุตตมะ ได้สร้างรูปเหมือนหลวงปู่พรหมา เขมจาโรแบบตัดขอบตามรูปองค์ท่าน ขนาดเล็กกระทัดรัด อีกจำนวนหนึ่ง ประมาณ 1,000 องค์ รูปเหมือนนี้ตั้งใจทำแจกฟรี ไม่จำหน่าย แต่จนใจไม่รู้จะแจกอย่างไรจึงจะทั่วถึง
ผู้สันทัดกรณีเรื่องแจกพระได้แนะนำว่า ให้เฉลี่ยแจกให้แก่ผู้บูชาพระมหาฤาษีโดยกำหนดว่า 1 ต่อ 4 คือหมายถึงว่า ใครบูชาพระมหาฤาษี 4 องค์ จะได้รูปเหมือนหลวงปู่เป็นกำนัล 1 องค์ (พระมหาฤาษีรุ่น 8 สร้างทั้งหมด 4 พันองค์)
แต่ผมหนักใจ หากผู้ที่บูชาพระมหาฤาษีรุ่น 8 แต่เพียงองค์เดียว หรือบูชาไม่ถึง 4 องค์ก็จะพลาดโอกาสไป
พระแจกก็ย่อมจะเหลือ ผมจะทำยังไงดี
ตอนนี้ยังคิดไม่ออก เก็บไว้คิดเป็นการบ้านต่อไป หรือใครคิดออก โปรดแนะนำสั่งสอนด้วย
บอกเธอบอกฉันอีกที นี่คือพระมหาฤาษีรุ่น 8 ที่หมายสุดท้ายของผมอย่างแท้จริง
_______________________
ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ปีที่ 12 ฉบับที่ 289 วันที่ 16 มกราคม 2537