จะเล่าเรื่องหลวงปู่พรหมา เขมจาโรให้ฟัง

พิจารณาอาหาเรปฏิกูลนานไปหน่อย

อาหารเก่าออกไปอาหารใหม่เข้ามา อีกไม่ช้าอาหารใหม่ที่เพิ่งกินไปแหม่บๆก็จะกลายเป็นอาหารเก่า
อาหารที่สะอาดมาต้องกายสกปรกของเราเข้าก็เน่าสกปรกไปด้วยอย่างนี้แล
พิจารณาอยู่ฉนี้ชักจะรู้สึกตนว่าเริ่มเห็นแสงแห่งธรรม

แต่พอเหลือบเห็นขาหมูของเจ๊ฮวงตลาดวารินฯเข้า
เกิดอาการทนไม่ไหว
ปรี่เข้าไปตักมาพิจารณาอีกจาน

ทีนี้ว่ากันแบบปรมัตถ์
ปลงทรากอสุภไปด้วยเสียเลย
ถอดหนัง ไขมัน เนื้อ เอ็น กระดูก จนเห็นชัดกระจ่างแจ้งแทงตลอด
เห็นลึกล้ำเข้าไปในสกลสังขารว่ามันก็เป็นแบบนี้แหละหนอ
ลงได้ลอกหนังอันสวยงามออกเมื่อไหร่ ข้างในก็เป็นเหมือนกันทุกตัวทุกคน

ปลงจนหมดเกลี้ยงทั้งจานแล้วเกิดไม่แน่ใจตนเองขึ้นมาซะอีก
กลัวว่าจะลืมความรู้ที่เพิ่งจะได้มาจากการปลดปลงไปหมาดๆ
ต้องตักขาหมูเจ๊ฮวงมาปลงอีกรอบกันลืมอีกสักจานดีกว่า

เฮ้อ..!

ตอนนี้นึกเชื่อแล้วล่ะครับว่าพระนิพพานของใครสักคนนั้นมันยากเย็นแสนเข็ญ
สมควรที่จะก้มลงกราบให้หน้าผากจรดดิน
แทบเท้าของผู้ที่ท่านถึงซึ่งพระนิพพานอย่างแท้จริงโดยไม่สงสัยในคุณค่าแห่งพระนิพาน

ทุกคนตอนนี้เป็นไง..อิ่มหมีพีมันกันแล้วใช่ไหม
งั้นก็เอาล่ะ
พร้อมจะฟังพร้อมจะเล่ากันแล้ว จะรีรออะไรอีก

แต่จะต้องตกลงกันก่อน
ว่าต่อไปนี้จะเป็นแค่เรื่องเล่า ไม่ใช่เรื่องที่จะตั้งใจเขียนเพื่อต่อไปจะให้เป็นหลักให้ค้นคว้าหรืออ้างอิง
เล่าก็คือเล่า
เหมือนเล่าสู่กันฟังเล่นๆง่ายๆกันเอง
ซึ่งแน่ล่ะว่าจะไม่มีเวลาตรวจสอบค้นหาข้อมูลในส่วนที่เป็นตัวเลข วัน เดือนและปี
อีกทั้งยังอาจลืมชื่อสถานที่ ชื่อบุคคล และอาจจะลืมอะไรได้อีกหลายอย่างก็ต้องขออโหสิกันล่วงหน้า

ระหว่างที่กำลังเล่า อนุญาตให้สอดแทรกคำถามที่เกิดสงสัยในขณะนั้นได้ทุกคน
ไม่ต้องเกรงใจ
ช่วยกันถามได้แหละดี เพราะว่าเรื่องเล่าแบบนี้มีเกร็ดสนุกเยอะ
ถ้าไมมีการดักไม่มีการตอดคำถามกันไปเรื่อยๆ
คนเล่าอาจโดดข้ามบางเรื่องไปแน่ๆน่าเสียดาย

คอก็ชักแห้ง
ขอไปกินน้ำก่อน..เดี๋ยวมา

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน