เมื่อครู่นี้..ขณะที่กำลังกินกาแฟอยู่หน้าบ้าน
คุณมงคล รปภ.ของกรมศุลกากร ประจำด่านช่องเม็กเพิ่งออกเวร
เห็นผมก็ปรี่เข้ามาคุยด้วย
ควักพระฤาษีกศปรุ่น๒ที่ผมให้ไว้นานแล้วออกมาถาม
“พี่ครับ.. องค์นี้หลวงปู่อะไร”
จำได้ว่าเคยบอกไปนานแล้วว่าเป็นของหลวงปู่ทองสา
แกคงลืม
“ทำไมล่ะ”
“ดีจริงๆครับพี่..ตั้งแต่ได้ท่านมา อะไรๆก็สะดวกหมด คนเคยเกลียดผมก็เมตตา ของกินของอยากมีคนเอามาให้ผมกินกับครอบครัวตลอด(เอิ๊กก..ผมก็ให้เหมือนกัน ) ..เด็กสาวๆวัยรุ่นมันก็ชอบเข้ามาชวนผมคุย ..เมียผมชักจะหึง.. แล้วก็รู้สึกอบอุ่นมั่นใจเวลาเข้าเวรรอบดึก.. บางคืนมีศพคนลาวรอส่งกลับประเทศมาให้เฝ้า.. เคยกลัว.. เพราะเคยถูกผีหลอก ..เดี๋ยวนี้ก็เงียบไม่มีอะไร ..ก็เลยไม่กลัวอีกแล้วครับ”
“หลวงปู่ทองสาเพิ่งมรณเมื่อคืนวันที่ ๒๓ เดือนนี้เอง”
“โอ้ยย..จริงเหรอครับพี่ ”
ยกมือไหว้ท่วมหัวแล้วเงียบงันไป
แค่เล่าให้ฟังถึงมรดกขลังชิ้นสุดท้ายที่หลวงปู่ทองสาทิ้งไว้ให้
(26 มค.2557)
บันทึกเรื่องการเสกพระฤษีกศป รุ่น2
ประมาณ2ทุ่มของเมื่อคืน(13พค56)
เหมือนฟ้าอุ้มท้องฝน9เดือน
จนเห็นผิดปกติไปจากก่อนหน้านั้นที่ทั้งร้อนทั้งอ้าว
หลวงปู่รำพึงว่า..เออแปลกนะ จิตมันชุ่มเย็น มันเป็นไปเอง มีปีติเต็มเปี่ยมอีกด้วย
ท่านรู้สึกว่าอยากจะลงมือเสกแล้ว
ท่านลุกเข้าที่นั่ง หลับตานิ่งเงียบไปในชั่วฟ้าแลบ
ฟ้าก็คลอดเม็ดฝนออกมาห่าใหญ่ ทั้งลมทั้งเสียงกระหึ่มบึ้มๆราวปืนใหญ่
“เสียงมันเหมือนคนยิงปืนใหญ่นะ” พระเอกพลยืนยัน “มันไม่เหมือนเสียงฟ้าร้องที่เคยได้ยิน”
“ผมเดาว่ามันเป็นเสียงฟ้าผ่า” ผมสู่รู้..อวดโง่วิจารณ์
“ฮ่วย!.. พูดยังกะข้อยบ่เคยได้ยินเสียงฟ้าผ่า ..บอกว่าเหมือนเสียงปืนใหญ่ก็ปืนใหญ่สิน่ะ”
“หลวงปู่เสกอยู่นาน ไม่ได้จับเวลา แต่ว่านานมาก นั่นน่ะรอบแรก ดึกๆท่านเข้าเสกอีกรอบจนเกือบแจ้ง”
ราวๆตี 3 ท่านจึงลุกออกมาทำวัตรสวดมนต์ตามปกติ ก่อนจะลุกออกไปบิณฑบาตตอนเช้า
หลวงปู่บอกว่า..การเสกพระแต่ละครั้งจะทำได้ไม่เหมือนกัน
แต่ครั้งนี้ทำได้ดีกว่าทุกครั้งเคยทำมา
ฤษีรุ่นนี้ท่าจะเก่งเอาการ
ท่านเอ่ยคำว่า”เมตตาหลวง”เหมือนคราวเสกรุ่นแรก
“เมตตาหลวงเป็นมนต์หรือครับหลวงปู่” พระเอกพลถาม
“ไม่ใช่มนต์ ..มันออกมาจากจิตที่อยู่ในใจ มนต์น่ะสวดเก่งแค่ไหนก็ทำไม่ได้ ถ้าจิตยังใช้ไม่ได้”
อำพล เจน, Jan 26 2014
ความคิดเห็น
** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน