การทำสมาธิ
พูดถึงการทำสมาธิ
คนเราทุกคนสามารถทำได้ครับ
แต่ถ้าเป็นผู้ศีลสมบูรณ์แล้วการทำสมาธิจะได้ผลดีกว่า
ด้วยศีลนั้นทำให้เกิดความองอาจผึ่งผายในจิตใจเรา
ทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ตนเอง เชื่อมั่นในความบริสุทธิไร้มลทินแห่งบาปของตน
และศีลก็ได้สร้างสติสัมปชัญญะให้เราไว้เป็นทุนอีกด้วย
จะมากจะน้อยก็แล้วแต่
วิธีการทำสมาธิหรือครับ
ผมไม่ต้องอธิบายให้รุ่มร่ามน่ารำคาญหรอก
ในเมื่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของผมมาเองจะมาฟังผมทำไม
ให้ฟังอาจารย์ของผมอธิบายก็แล้วกัน
ตามลิงค์นี้เลยครับ
http://forum.ampoljane.com/index.php?showtopic=36
การทำสมาธิในแบบที่หลวงพ่อชาสั่งสอนเรียกว่าอานาปานสติ
เป็นสัมมาสมาธิ
ผมทำตามแบบที่หลวงพ่อชาอบรมไว้ตลอดมา
* * * * * * * * *
สมัยที่ผมยังทำงานอยู่ที่กรุงเทพ มีบ้านพักอยู่ซอยวัดบัวขวัญ นนทบุรี
ทุกๆวันจะนั่งรถเมล์ไปที่ทำงาน โดยนั่งตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทางซึ่งก็คือที่ทำงานของผม
การได้ขึ้นรถที่ต้นทาง คือขึ้นที่อู่รถเมล์ ทำให้มีโอกาสเลือกที่นั่งได้ตามใจ
ผมเลือกนั่งหลังคนขับ เอาด้านในสุดชิดหน้าต่าง ด้วยตำแหน่งที่นั่งนี้เป็นจุดอับ นั่งลงไปแล้วไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเป็นสุภาพบุรุษยกที่นั่งให้ใคร
ผมได้อาศัยทำอานาปานสติอยู่บนรถเมล์ตรงที่นั่งนั้นไปตลอดทางจนกว่าจะถึงที่ทำงาน
ทำเช่นนี้ทุกวัน เป็นเดือน เป็นปี
แม้ปัจจุบันจะขึ้นรถไฟ รถทัวร์ เครื่องบิน จะเดินทางไปไหนๆก็ตามยังคงทำแบบนี้เป็นปกติ
ภาวนาคาถาสำหรับเดินทางที่หลวงปู่สิมให้ไว้ก็ทำด้วยครับ
“ชนก็ตาย ไม่ชนก็ตาย ตกก็ตาย ไม่ตกก็ตาย”
ผลจากการทำเช่นนี้ ทำให้เกิดความคุ้นเคยกับสถานที่ใดๆก็ตามที่อึกทึกคึกโครมวุ่นวายหนวกหู
สามารถหลับตาลงกำหนดลมได้ทุกแห่ง ไม่มีปัญหา
ยิ่งวุ่นวายหนวกหูยิ่งสงบเร็ว
ใครจะลองดูมั่งก็ได้นะครับ
เรื่องสมาธิที่จะส่งผลต่อเนื่องไปถึงปัญญานั้น
หมายถึงเรื่องอะไรอย่างไรที่จะเกิดหลังจากทำสมาธินี้นั้น
ผมไม่อยากกล่าวถึงเลยครับ
ความรู้แค่หางอึ่งจะไปไปอวดดีคุยโม้ได้ไง
เข้าใจว่าที่คุยกันมาถึงเพียงนี้ก็น่าจะพอ
เว้นแต่ใครมีข้อสงสัยเป็นการเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งจะถามก็เชิญถาม ตอบได้จะตอบให้ทันที
หรือจะพูดจาเชิงสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยินดีเสมอ
Jun 25 2009