กูไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว
เล่าเรื่องหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
เรื่องที่ ๑
สจ.นพจอม งามมีศรี คุ้นเคยกับหลวงพ่อคูณตั้งแต่สมัยยังอยู่สระแก้วด้วยกัน
เมื่อหลวงพ่อคูณย้ายไปอยู่วัดบ้านไร่ เมืองโคราช ก็เรียกหา สจ.นพจอมว่า “มาเยี่ยมกูหน่อย กูเหงา”
ที่พูดถึงตรงนี้ก็เพื่อยืนยันว่า หลวงพ่อคูณเมตตาและคุ้นเคยสจ.นพจอมจริงๆ
สจ.นพจอมเล่าว่า เวลานั้นวัดบ้านไร่ยังเงียบเชียบ ไม่มีอะไร ชาวบ้านยากจนแถววัดบ้านไร่ หลวงพ่อคูณก็มีเมตตาเป็นพิเศษเสมอกัน ไม่เลือกว่ามีหรือจน
ครั้งหนึ่งมีชาวบ้านปั่นจักรยานมานิมนต์หลวงพ่อคูณ ได้กราบเรียนหลวงพ่อว่า “ผมไม่มีรถยนต์มารับ มีแต่จักรยาน”
หลวงพ่อคูณก็ขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายจักรยานไปกับชาวบ้านท่านนั้นเฉยเลย
ขณะนั้นมีศิษย์ทางไกลคนหนึ่งขับรถยนต์เข้ามา เห็นหลวงพ่อคูณซ้อนท้ายจักรยาน ก็เอะอะว่า “ผมมีรถมารับ นิมนต์หลวงพ่อไปกับผม”
หลวงพ่อคูณตอบว่า
“ไอ้นี่มันนิมนต์กูก่อนมึงอีก กูจะไปกับมัน”
—-
เรื่องที่ ๒
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวัดบ้านไร่ใหญ่โตแล้ว
สจ.นพจอม นั่งอยู่ในห้องกับหลวงพ่อคูณ มีคนอื่นที่ใกล้ชิดหลวงพ่ออยู่ร่วมด้วยหลายคน
“คุณอำพลเชื่อไหม ลิ้นชักตู้ ๔ -๕ ชั้น ในห้องหลวงพ่อน่ะ มีเงินเต็มไปหมดทุกลิ้นชักเลย แบ้งค์ใหญ่ๆทั้งนั้น”
ขณะนั้นน้องสาวแท้ๆของหลวงพ่อคูณ เดินทางมาจากเพชรบูรณ์ เข้ามากราบหลวงพ่อ เอายาเส้นปลูกเองมาถวายด้วย
หลวงพ่อรับยาเส้นมามวนสูบควันโขมง แล้วบอกว่า “ใช้ได้ๆ”
สักพักก็จ้องหน้าน้องสาวถามตรงๆว่า
“มีเรื่องอะไร ถึงได้มาหากู..”
“โอ๊ย..ฉันตอนนี้ลำบาก ขัดสนไปหมด.. อยากจะมายืมเงินหลวงพี่สัก๓-๔หมื่นพอไปแก้ขัด”
“กูไม่มีหรอกเงิน..”
น้องสาวหลวงพ่อถึงกับหน้าจ๋อย
สจ.นพจอมก็กล่าวขึ้นว่า “เงินในลิ้นชักก็เยอะแยะ ให้เขาไปเถอะ เขามายืม พอเขามี ก็จะเอามาคืนให้หรอก..”
“ไม่ใช่เงินกู” หลวงพ่อคูณยืนยันหนักแน่น “นั่นมันเงินเขาให้มาทำบุญ ไม่ใช่เงินกูสักบาทเดียว เงินกูไม่มีหรอก ”
…ตกลงน้องสาวหลวงพ่อคูณไม่ได้เงินจากพระพี่ชายกลับไปเพชรบูรณ์แม้แต่บาทเดียว..
สจ.นพจอม งามมีศรี