พลังอำนาจลบล้างศาสนา

การพูดถึงอดีต บางคนปรามว่า อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ เพราะอาจกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ลุกลามใหญ่โตเมื่อไหร่ก็ได้

แต่คุณประโยชน์ของการพูดถึงอดีตก็มีอยู่ อย่างน้อยก็ให้เห็นว่านั่นเป็นบทเรียน และเป็นอุทาหรณ์สอนคนรุ่นหลังได้

นานเนมาแล้ว ในทุกภูมิภาคที่เคยมีพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ก็ล้วนแต่เคยก้าวล่วงเข้าสู่ยุคศาสนาเสื่อมมาแล้วทั้งสิ้น

บางแห่งก็ถึงกับสูญสิ้นไป บางแห่งก็ฟื้นฟูกลับมาใหม่ได้

ในอดีตที่ไม่ไกลเกินไป
ยังพอจะเห็นได้ถนัดชัดเจน
เมื่อครั้งสมัยที่ลัทธิการปกครองสังคมนิยมเข้ามามีบทบาทอำนาจเด็ดขาดในหลายๆประเทศทั่วโลก
อย่าว่าแต่เรื่องของผู้คนชนชั้นศักดินาบ่าวไพร่
แม้เรื่องการศาสนายังถึงเวลาสั่นคลอน
ไม่แต่พุทธศาสนาเท่านั้น ..ทุกศาสนาล้วนถูกลบล้างทำลาย

มองย้อนกลับไปที่บ้านพี่เมืองน้อง
ก็ยังสามารถจะเห็นได้ชัดเจน
เพราะว่าเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน

สิ่งที่ได้เห็นนั้นกำลังสท้อนให้เห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับบ้านของเราเองในปัจจุบันอีกด้วย

มีการพูดถึงว่าได้มีขบวนการทำลายล้างพระศานาเกิดขึ้นมาแล้ว แต่ขบวนการเหล่านั้นไม่อาจจะมีพลังอำนาจเพียงพอ ถ้าภาครัฐไม่ได้เห็นดีด้วย

ในหลายๆประเทศที่เปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นสังคมนิยมนั้น พลังอำนาจทำลายล้างศาสนามีมากเกินพอ.. แต่ผลสุดท้ายแล้วก็ทำลายล้างไม่ได้สิ้นทราก.. ศาสนายังกลับมาให้ผู้คนได้ยึดเหนี่ยวเหมือนเก่า

เป็นความจริงว่า โดยพื้นฐานของปกครองระบอบในระบอบสังคมนิยมในลาวทุกวันนี้ ยังคงมีการต่อต้านเกิดขึ้นมาโดยตลอดในรูปของนโยบาย เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นสังคมนิยมที่ออกมาจากตำราเล่มเดียวกันทั่วทั้งโลก

โดยพฤตินัยแล้วคนอื่นๆที่ไม่ใช่คนลาวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่แล้ว

แต่เรื่องราวของพระพุทธศาสนาเผชิญการถูกหักล้างทำลายในเมืองลาวในอดีตและแปรผันผ่านกาลเวลามาได้จนถึงวันนี้นั้นก็น่าสนใจ

บางทีจะเป็นทั้งบทเรียนสอนคนไทยและเป็นได้ทั้งอุทาหรณ์สอนตนเอง

ภายหลังจากวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2518 มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มาเป็นสังคมนิยมคอมมิวนิสต์โดยสมบูรณ์แล้ว

เกิดอะไรขึ้นกับพระพุทธศาสนาในประเทศลาว

– พระสงฆ์กว่า ๑๐๐๐ รูป ถูกสัมนาแนวคิดสังคมนิยม บางแห่งมีการทำร้ายพระเณรถึงกับเสียชีวิต
– ห้ามการเผยแพร่คำสอนที่พิสูจน์ไม่ได้ เช่นบาป บุญ คุณ โทษ นรก สวรรค์ เวร กรรม
– พระเณรเมื่อบวชแล้วต้องอยู่ในฐานะเดียวกันกับโยม หาอยู่หากินเอง ทำไร่ ทำนา เลี้ยงปู หาปลา ตามนโยบายที่ว่า จะไม่ให้มีผู้ใดเกียจคร้าน

95006-attachment

นี่ก็เหมือนกับประเทศจีนสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสังคมนิยมใหม่ๆเช่นกัน ห้ามพระบิณฑบาตขอข้าวปลาอาหารญาติโยม พระต้องหาเลี้ยงตนเอง

ในที่สุดแล้ว ศาสนาก็ยังเป็นสิ่งที่ผู้คนยึดมั่นเอาไว้ โดยไม่มีลัทธิการปกครองชนิดใดมาหักล้างได้

แม้ในวันนี้จะยังมีการเผยแพร่ข่าวสารจากภาครัฐ มีการกล่าวถึงศาสนาเสมอว่าเป็นความงมงาย แต่ประชาชนทั้งหลายก็ยังคงมีศาสนาอยู่ประจำใจเหมือนเก่า

กระทั่งผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรครัฐลาวเองหลายคน ยังขวนขวายหาพระมาแขวนเต็มคอ ..เช่าแพงๆจากเซียนพระเมืองไทยไปแขวนอีกด้วย

วันที่ ๘ มีนาคม คศ.๑๙๗๙ สมเด็จพระยอดแก้วพุทธชิโนรสสกลมหาสังฆปาโมกข์ธรรมญาณมหาเถระ สมเด็จพระสังฆราชพระองค์สุดท้ายของพุทธจักรลาว ประทับบนแพยางรถยนต์ที่ต่อกันขึ้นมาเอง หนีออกจากประเทศลาว ข้ามน้ำโขงมาขึ้นฝั่งที่หนองคาย เข้าประทับที่วัดหายโศก ก่อนเสด็จไปประทับที่วัดมัชฌิมาวาส อุดรธานี

ทรงเล่าว่า.. เกิดเหตุรุนแรงหลาย คนหนุ่มถูกห้ามบวช พระเณรถูกเบียดเบียนหนัก คำสอนต้องสอดคล้องกับกับที่รัฐบาลต้องการเท่านั้น

( สมเด็จพระสังฆราชสิ้นพระชนม์ที่โรงพยาบาลสงฆ์ กรุงเทพฯ เมื่อ ๒๔ มิถุนายน ๑๙๘๑ พระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานโกศไม้ ๑๒ และพระราชทานเพลิงศพที่วัดเทพสิรินทราวาสในวันที่ ๑๒ มีนาคม ๑๙๘๕ )

จะเห็นได้ว่าหลังการเปลี่ยนแปลงระบอบปกครองประเทศ ได้มีเหตุร้ายกาจรุนแรงเกิดขึ้นจริง แต่ผลสุดท้ายเมื่อกาลเวลาผันผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับคืนสู่สภาพเดิมทีละน้อย จนเหมือนเมื่อครั้งยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเกิดขึ้นมาก่อน

ทุกประเทศที่พยายามล้มล้างการปกครอง และทำได้สำเร็จ ล้วนเป็นอุทาหรณ์ให้เห็นว่า ของเดิมที่เรามีอยู่เป็นอยู่นั้นมีความดีที่งามพร้อมอยู่แล้ว

ควรให้ความสนใจ ปรับปรุง บำรุงรักษา และพัฒนา
เพราะว่านั่นเป็นเรื่องควรทำอย่างยิ่ง
ดีกว่าจะทำลายล้างให้ฉิบหายวายป่วง

ทุกๆการกล่าวอ้างว่าของใหม่ระบอบใหม่ว่าดีอย่างโน้นอย่างนี้ จนผู้คนหลงเชื่อ ต่างพากันลุกขึ้นมาทำลายล้างของเก่าพินาศสลาย ดังที่ได้เห็นมาโดยตลอดนั้น

สุดท้ายก็เป็นไปเพื่อผู้นำระบอบใหม่กับพลพรรคของพวกเขาได้เสวยสุข

ไม่ใช่ประชาชนได้รับผลนั้นจริง

GB405_37

ลาวในวันนี้เป็นประเทศที่มีความมั่นคงในพระพุทธศาสนาไม่แพ้ที่ไหนในโลก

ประชาชนคนลาวลืมเรื่องการเป็นประเทศสังคมนิยมที่ไม่นิยมชมชอบศาสนาของลัทธิการปกครองของตนไปจนเกือบทั้งหมดแล้ว.

(ภาพประกอบทุกภาพยืมมาจากอินเตอร์เน็ท ขอขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ มา ณ โอกาสนี้ด้วย)
แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน