เรือล่มที่วัดเขื่อน

เกี่ยวกับสมณศักดิ์ชั้นเจ้าคุณ (พระโพธิญาณเถร) หลวงพ่อไม่มีความปรารถนาอยากจะได้ ท่านปฏิเสธตลอดเวลา แต่ไม่อาจเลี่ยงได้

เมื่อทราบว่าจะต้องได้รับพัดยศแน่นอนแล้ว ท่านก็เลี่ยงด้วยการหนีไปเมืองลาว ไปกับพระอาจารย์กิ วัดสนามชัย พระอาจารย์กิเป็นชาวลาว เกิดในแขวงจำปาศักดิ์ จึงได้เป็นผู้นำทางท่องเมืองลาว ผู้ติดตามท่านไปคราวนที่เรียกว่าหนีพัดยศนี้ ได้เล่าเหตุการณ์ระทึกใจตอนหนึ่ง ขณะนั่งเรือออกไปชมแก่งหลี่ผี เรือเกิดเครื่องยนต์ดับ ทำให้เสียการควบคุม ถูกน้ำซัดเข้าไปสู่แก่งที่มีกระแสเชี่ยวกรากของน้ำโขง ซึ่งถ้าหลุดเข้าไปในกระแสนั้นแล้วไม่ว่าใครก็หาหนทางรอดชีวิตได้ยาก หลวงพ่อนั่งนิ่งเงียบ เพ่งดูเครื่องเรือซึ่งกำลังถูกคนขับเรือแก้ไขเลิ่กลั่กอยู่ ครู่เดียวเครื่องยนต์ก็กลับติดขึ้นมาอีก ผู้ติดตามที่อยู่ในเรือลำเดียวกัน และเป็นผู้เล่าเรื่องนี้ แสดงความเชื่อมั่นว่าเครื่องยนต์กลับมาทำงานได้อีกนั้นเป็นเพราะหลวงพ่อ

เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ผู้ประสบเหตุพร้อมกับคนอื่นๆคือ คุณยุวดี แซ่จัง ซึ่งได้เล่าว่า วันหนึ่งได้เดินทางไปพร้อมกับหลวงพ่อเพื่อไปยังวัดป่าวนโพธิญาณหรือวัดเขื่อน ซึ่งตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนสิรินธร ในเขตอำเภอพิบูลมังสาหาร (ซึ่งปัจจุบันขึ้นอยู่กับอำเภอสิรินธร) เรือโดยสารข้ามอ่างเก็บน้ำไปยังวัดเขื่อนมี 2 ลำ ลำหนึ่งเป็นของพวกพระกับฆราวาสชายและหลวงพ่อชานั่งไป อีกลำเป็นของฆราวาสทั่วไปทั้งชายหญิง

ระหว่างที่เรือแล่นออกไปกลางน้ำ เกิดอุบัติเหตุเรือลำที่พวกฆราวาสชายหญิงนั่งได้ล่มลง คนว่ายน้ำไม่เป็นก็มีอยู่อย่างเช่น คุณยุวดี เป็นต้น พวกที่ว่ายน้ำไม่เป็น พอหล่นจากเรือที่พลิกคว่ำลงน้ำ เท้าของพวกเขาก็เหยียบถูกกิ่งไม้ใต้น้ำ ทำให้ยืนทรงตัวพ้นน้ำได้ทุกคน ไม่มีใครเป็นอันตรายอย่างน่าอัศจรรย์

คุณยุวดีบอกว่าตนเองคงต้องตายแน่ ในใจนึกพึ่งแต่หลวงพ่อ และเมื่อเท้าได้สัมผัสกิ่งไม้ใต้น้ำ และทรงตัวอยู่ได้แล้ว มองดูหลวงพ่อท่านนั่งเฉยๆ แต่สายตาของท่านเพ่งดูทุกคนที่ตกน้ำอย่างไม่วาง

นี่ถ้าหากมีใครจายในคราวนั้น หลวงพ่อชาต้องเสียชื่อเสียงอย่างไม่ต้องสงสัย แต่นับว่าโชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายแม้แต่คนเดียว


 

ปรับปรุงจากบทความเรื่อง สุภทฺโท สุวิสุทธิภิกขุ พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)  ใน คอลัมน์พระเครื่องศักดิ์สิทธิ์  นิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ปีที่ 12 ฉบับที่ 276 วันที่ 1 กรกฎาคม 2537

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน