พระธาตุอิงฮังต้นแบบพระนาคเกี้ยว
มีวาสนาได้ไปสักการะพระธาตุอิงฮังครั้งแรกราวปี ๒๕๓๙-๒๕๔๐
ปีนั้นพระธาตุอิงฮังมีเพียงชาวเหวียดและลาวเป็นส่วนใหญ่ที่สนใจมากราบไหว้สักการะ
ปัจจุบันคนทั่วไปไม่แยกเชื้อชาติวรรณะรู้จักและศรัทธามานบไหว้พระธาตุกันมากขึ้น
เมื่อจะเข้าไปภายในวัดพระธาตุอิงฮังวันนี้ต้องซื้อปี้
คนลาว ๒,๐๐๐ กีบ (๘ บาทกว่า)
คนต่างชาติ ๕,๐๐๐ กีบ (๒๐ บาท กว่า)
—-
อยากบอกว่าถ้าใครมีเวลาและมีโอกาสได้ไปถึงสะหวันนะเขดแล้วโปรดอย่ามองข้าม
พระธาตุอิงฮังอยู่ห่างจากตัวเมืองสะหวันเขดเพียง ๑๐ กว่า กม.
ไปง่ายมาง่ายสะดวกสบายทุกประการ
—-
อิงฮัง=พิงรัง
อิงฮัง หมายถึง พิงต้นรัง
ใครพิง?
พระพุทธเจ้าพิง
ทำไมจึงพิง?
พระองค์ทรงเสวยภัตตาหารทำจากเนื้อหมู
หลังจากนั้นทรงเกิดอาพาธอาหารเป็นพิษ
จึงทรงเอนพระวรกายลงพิงต้นรังเพื่อผ่อนคลายทุกขเวทนา
ตันรังที่พระองค์ทรงพิงอยู่ที่ไหน?
อยู่ข้างในพระธาตุเจดีย์
ทุกวันนี้เหลือเพียงตอ
ศรัทธาชนคนโบราณได้สร้างพระเจดีย์ครอบเอาไว้นานแล้ว
ได้ยินว่า..ความเชื่อเรื่องนี้เป็นเหตุให้ชาวบ้านทาดอิงฮัง ไม่เลี้ยงหมู จนทุกวันนี้
จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบ
ยังไม่ได้สอบถามดู
—-
ว่ากันว่าพระธาตุอิงฮังสร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบอง หรือ โคตรบูรณ์ ประมาณพ.ศ.400 ในสมัยพระเจ้าสุมิตธรรมวงศา
พุทธศาสนิกชนสองฝั่งโขงยกย่องให้เป็นพระธาตุคู่ขวัญกันกับพระธาตุพนม ด้วยความเชื่อว่าถูกสร้างในยุคสมัยเดียวกัน
—-
พระธาตุอิงฮังเป็นต้นแบบพระนาคเกี้ยว
—
หลวงปู่คำพันธ์เคยถามว่า นึกอย่างไรจึงคิดทำพระนาคเกี้ยวลักษณะเช่นนี้ขึ้นมา
กราบเรียนท่านว่า เพราะได้ไปเห็นรูปพระนาคเกี้ยวที่องค์พระธาตุอิงฮัง เกิดความชอบใจ จึงเอารูปแบบนั้นมา
หลวงปู่บอกว่า “ดี.. ฉลาดเลือกทำ”
—
เพราะเหตุนี้พระธาตุอิงฮังจึงเป็นปูชนียสถานที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนจะมีความระลึกถึงอยู่เสมอ