เหรียญรุ่นเมตตาของหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จ.อุดรธานี
เหรียญรุ่นเมตตาสองเหรียญที่ลงภาพให้ดูนี้ ท่านเห็นว่ามีอะไรแตกต่างกันไหมครับ ไม่ไปถือเอาข้อที่ว่าเหรียญกะไหล่เงินและทองแดงเป็นความแตกต่างก็จะเห็นว่า ด้านหลังข
องเหรียญทั้งสองไม่เหมือนกัน
เหรียญกะไหล่เงินด้าน หลังจะสวยงามสะอาดกว่าเหรียญทองแดงซึ่งมีพื้นผิวขรุขระ (ทางภาษานักเลงพระเครื่องเรียกว่าผิวขึ้นขี้กลาก ฟังไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่) ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าเหรียญทองแดงได้สร้างเสริมขึ้นอีกภายหลังจากหลวงปู่ ขาวมรณภาพ
แล้ว เป็นเหรียญที่สร้างไม่ทันชีวิตหลวงปู่ขาว แต่ว่าสร้างขึ้นจากบล้อคเดียวกัน (บล้อกเก็บไว้นานเกิดเป็นสนิม)
แปลว่าบล้อคยังอยู่นั่นแหละครับ
ถ้า จะถือเอาของหลวงปู่ขาวอย่างแท้จริง ให้พิจารณาด้านหลังเหรียญไว้เป็นหลัก ถ้าพื้นผิวเรียบร้อยสวยงาม เป็นอันว่าใช่หลวงปู่ขาวแน่นอน แต่ถ้าพื้นผิวไม่สวยงาม ขรุ ๆ ขระ ๆ เป็นอันว่าไม่ใช่ของท่าน
“ไม่ใช่” แล้วแปลว่าไม่ได้เสกหรือ
เสกครับ เสกอย่างดีเสียด้วย
เหรียญ รุ่นที่สร้างไม่ทันหลวงปู่ขาว หรือเรียกว่าสร้างเสริมนี้ สร้างขึ้นเพื่อแจกจ่ายที่วัดบ่อชะเนง อ.หัวตะพาน จ.อุบลราชธานี โดยนำเข้าพีที่วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พิธีนี้มีหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ มาร่วมด้วย และยังมีคณาจารย์อีกมากมายหลายองค์ที่ผมไม่ทราบชัด
ทางวัดบ่อชะเนง ไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มจัดสร้างเองหรอกครับ แต่เป็นท่านเจ้าคุณฯ อะไรไม่ทราบ ท่านอยู่วัดสัมพันธวงศ์ เป็นชาวบ้านบ่อชะเนง ท่านเป็นธุระสร้างแล้วนำมามอบให้ทางวัดแจกจ่ายแก่ผู้มาทำบุญตามศรัทธา ไม่ได้คิดสร้างเพื่อปลอมแปลงหรือแทรกซ้อนให้เหรียญรุ่นเมตตามัวหมองหรอกครับ ท่านทำโดยเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ได้มีเรื่องทุจริตเคลือบแคลงอยู่ เป็นแต่ว่าท่านไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่องการสร้างซ้ำซ้อนจะทำให้เกิดปัญหาแก่ผู้ สะสม ถ้าท่านรู้ท่านคงไม่ทำ
อย่าไปตำหนิท่านเลยครับ
แม้ว่า จะสร้างเสริมออกมา ก็ยังสามารถจะดูออกว่าเป็นของสร้างเสริม และสร้างเสริมออกมาแล้วก็ไม่ได้วางธุระอะไร ท่านเอาใจใส่นำเข้าพิธีปลุกเสกอย่างดี ดังที่กล่าวมาแล้ว เหรียญก็เป็นของดีเหมือนกัน
แขวนได้ สบายใจได้เช่นเดียวกันว่างั้นเถอะ
อาจ มีผู้สงสัยว่า ทำไมจึงต้องสร้างเป็นเหรียญหลวงปู่ขาวขึ้นมา ตอบได้ว่า วัดบ่อชะเนงนั้นเป็นวัดบ้านเกิดของหลวงปู่ขาว ในวัดยังมีวิหารที่หลวงปู่ขาวท่านสร้างและอาศัยพำนักสมัยที่ท่านอยู่วัดนี้ ปรากฏอยู่ ทางวัดยังรักษาสภาพเดิมไว้ และข้างในยังมีอัฐิธาตุ และอังคารธาตุของหลวงปู่ขาวประดิษฐานไว้ให้คนกราบไหว้บูชา เพราะเหตุว่าวัดบ่อชะเนงมีประวัติศาสตร์ของหลวงปู่ขาวอยู่ที่นี่ จึงต้องสร้างพระเป็นรูปหลวงปู่ขาวเพื่อให้เป็นความหมายถึงท่าน และวัดที่ท่านเคยอาศัย
วัดบ่อชะเนง ไม่ใช่วัดร่ำรวยเงินทองอะไร ถ้าสร้างพระแบบประหยัดได้ก็ต้องทำ เมื่อท่านเจ้าคุณฯ มีบล้อคเหรียญรุ่นเมตตาอยู่แล้วยิ่งประหยัดใหญ่ เลยได้สร้างออกมาอย่างนี้ อย่าไปคิดมากเลยครับ ถึงจะเสริมออกมาก็เป็นของดีอยู่ดี
ถ้าใครมีเมตตา มีศรัทธาอยากจะทำบุญกับวัดป่าบ้านนอกไกล ที่เคยเป็นวัดหลวงปู่ขาวพำนักมาก่อน ก็ไปทำเถิดครับ
จะ ทำบุญทางไปรษณีย์ก็ได้ ทำเท่าไหร่ก็ได้ 5 บาท 10 บาท 100 บาท ทำไปตามกำลัง ซึ่งทางวัดจะมอบเหรียญหลวงปู่ขาวที่สร้างขึ้นใหม่นี้ให้เป็นที่ระลึกทุกคน
ติดต่อทำบุญทางไปรษณีย์ได้นะครับ โดยติดต่อกับ
พระสิริพัฒนาภรณ์ (หลอม มหาวิริโย) วัดบ่อชะเนง
อ.หัวตะพาน
จ.อุบลราชธานี 34240
ทีนี้มาถึงรายการพิเศษ
ตอบจดหมาย
ไม่เคยตอบมาก่อน จึงถือเป็นกรณีพิเศษ
คุณแฟนเก่า ซึ่งผมนึกไม่ออกว่าเคยเป็นแฟนของผมมาแต่หนไหน คนที่เท่าไหร่ ได้เขียนมาถามผม ดังนี้
1. อยากรู้เรื่องเหรียญพระครูวิสุทธิบดี (ฉลองสมณศักดิ์) วัดคงคาราม พ.ศ. 2506 ว่าเหรียญรุ่นนี้มีความเป็นมาอย่างไร
2. อยากรู้เรื่องเหรียญหลวงพ่อสาร สํวโร วัดป่าคงโพธิสาร บ.โนนภิบาล อ.กิ่งแกคำ จ.มหาสารคาม
3. อยากรู้เรื่องเหรียญท่านเจ้าคุณนรฯ ซึ่งด้านหนึ่งเป็นรูปพระแก้วมรกต อีกด้านเป็นรูปท่านเจ้าคุณนรฯ
4. สงสัยว่าหลวงปู่โตเคยสร้างพระสมเด็จคะแนนหรือเปล่า ได้ยินว่าท่านเคยสร้างที่อยุธยา
และ ได้กล่าวอีกว่า “ที่ผมถามนี้เชื่อในความทำหนังสืออย่างบริสุทธิ์ใจในทางพระพุทธศาสนา ไม่ใช่พุทธพานิชย์ จึงเรียนถามอย่างตรงไปตรงมา ไม่ยกยอแล้วถามเสียเวลาจริงเปล่าครับ อีกข้อผมมีเหรียญหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม อีกด้านเป็นรุปหลวงพ่อนูนครึ่งองค์ อีกด้านเขียนพระราชธรรมาภรณ์ (เงิน จนฺทสุวณฺโณ) ขอความกรุณาเรียนถามแค่นี้”
คุณสุวิทย์ หันหน้าไปทางอื่นเร้ว ผมจะตอบจดหมายแล้ว
ข้อ1. เห็นจะต้องรับว่าไม่รู้รายละเอียด ไว้รู้เมื่อไหร่จะพยายามหาโอกาสตอบให้ ตอนนี้ถ้าขืนพูดไปแล้วผิดก็จะเป็นบาปกรรมแก่ตนเองเปล่า ๆ
จะว่าไป แล้ววัดคงคารามนั้นมีหลวงพ่อฉุยหรือพระสุวรรณมุณี (สุขภิกขุ) เป็นเอก ซึ่งเหรียญของหลวงพ่อฉุยถือเป็นเหรียญอันดับหนึ่งของจังหวัดเพชรบุรี
แม้ หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐยังเป็นศิษย์ของหลวงพ่อฉุยอีกที เหรียญของหลวงพ่อฉุยจัดให้เป็น 1 ในเบญจภาคีประเภทเหรียญของเมืองไทย ด้วยนะครับ
เหรียญเอกของท่านคือเหรียญรุ่น 1 ออกเมื่อปี พ.ศ. 2465 จำนวนสร้างห้าพันเหรียญ สร้างแจกเป็นบรรณาการแก่ผู้ร่วมสมทบทุนสร้างมณฑปพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา ในวัดคงคารามนั่นแหละครับ
อย่าไปคิดแสวงหาให้ยาก เหรียญรุ่นนี้แพงมาก แถมของปลอมเดินสวนสนามอยู่ขวักไขว่ ไม่รู้จริงอย่าแหยมเด็ดขาด
ข้อ 2. เหมือนเดิมครับไม่รู้ ผัดไว้ก่อน มีโอกาสจะตอบให้ทีหลัง
ข้อ 3. เหรียญเจ้าคุณนรฯ ที่อยากรู้ เป็นรุ่นที่เรียกกันว่า “เหรียญรูปเหมือน ธมฺมวิตกฺโก หลังพระแก้วมรกต วัดเขาบางทราย ชลบุรี”
ผู้สร้างเหรยีญรุ่นนี้คือคุณอธึก สวัสดิมงคล สำนักยุวพุทธิกสมาคมชลบุรี โดยสร้างขึ้นในนามของวัดเขาบางทราย
สร้างพร้อมกับพระเครื่องชุดไตรภาคี มีอยู่ 2 เนื้อ คือ เนื้อเงิน 99 เหรียญ ทองแดงรมควัน 2513 เหรียญ เท่า พ.ศ.ที่สร้าง
และได้นำเข้าพิธีปี 2513 ที่วัดเทพศิรินทร์ฯ ท่านเจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิต
สมัย ที่เหรียญรุ่นนี้ออกมาใหม่ ๆ ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ ไม่มีราคาเช่าหาแพง ๆ ไม่มีของเก๊ แต่ทุกวันนี้เป็นเหรียญแพงไปแล้ว ต้องใช้เงินเหยียบหมื่นหรือเกินหมื่นจึงจะได้มา และของเก๊เข้าใจว่าคงมีออกมาแล้ว ไว้มีโอกาสจะเขียนถึงอย่างละเอียดอีกครั้ง
คุณ แฟนเก่า (ของผม) ถ้ามีเหรียญนี้อยู่ในมือแล้วรักษาให้ดี เป็นเหรียญที่ค่อนข้างหายากอีกเหรียญหนึ่ง ถ้าได้ไว้นานปีแล้วก็น่าจะแท้ แต่ถ้าเพิ่งได้มาใหม่ต้องดูให้แน่ใจก่อน พอแน่ใจแล้วเลี่ยมทองโลด
ข้อ 4. สมเด็จโตท่านสร้างพระคะแนนหรือไม่นั้นตอบยาก เพราะว่าผมเกิดไม่ทัน แต่มนต์ขลังของสมเด็จโตนั้นมัดใจคนทั้งหลายเป็นอันมาก ดังนั้นใครๆ ก็อยากจะมี อยากจะได้พระเครื่องของท่านทั้งนั้น พระของสมเด็จโตเลยโผล่ขึ้นที่โน่นที่นี่วุ่นวายไปหมด ตั้งแต่รุ่นค้นพบที่เพดานโบสถ์ รุ่นลายแทง รุ่นแจวเรือจ้าง และรุ่นพิสดารสารพัด ทุกคนยัดใส่วัดระฆังของสมเด็จท่านทั้งหมด
อย่าง เช่นลือกันว่า สมเด็จโตท่านสร้างพระไว้มากมายถึง 73 พิมพ์ พิมพ์พิเศษสำหรับเจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดิน พิมพ์ชาววัง ชาวบ้าน พิมพ์ไกเซอร์ ล้วนแต่ลือกันไป จริงไม่จริงไม่รู้ บอกไม่ได้
ข่าวลือนั้นถ้าใครเชื่อมันก็จะเป็นข่าวจริง แต่ถ้าไม่เชื่อก็เป็นข่าวเท็จ
เชื่อหรือไม่เชื่อแล้วแต่ใจสมัคร
พูด ถึงพระคะแนนนั้นโดยหลักการสร้างพระคะแนน เขาสร้างเพื่อเอาไว้นับจำนวนพระที่สร้างทั้งหมด คือสร้างได้พันองค์ก็สร้างพระคะแนน 1 องค์ ถ้าสร้างไว้แปดหมื่นสี่พันองค์ก็จะสร้างพระคะแนนไว้ 84 องค์ เพื่อสะดวกแก่การนับจำนวนพระ
พระคะแนนของสมเด็จโตก็น่าจะมีได้ แต่ว่าถ้ามีแล้วพระคะแนนของท่านมีรูปร่างหน้าตาอย่างไรไม่อาจบอกได้
ใครเอาพระคะแนนสักองค์มาให้ผมดูแล้วบอกว่านี่เป็นพระของสมเด็จโต ผมคงดูงง ๆ
ท่านว่าใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่
พูดยากชะมัด
มีคำพูดสรุปอยู่คำหนึ่ง “ถ้าพระแท้ต้องขายได้”
ที นี้พระสมเด็จที่ขายได้ในราคาของพระสมเด็จโตคือเรือนแสนเรือนล้านนั้น ต้องอลุ้มอล่วยว่าเป็นของสมเด็จโตอย่างไม่น่าสงสัย แต่ถ้าบอกว่าของสมเด็จโตแล้วขายในราคาหลวงปู่อื่นๆ ร้อยบาทพันบาท จะถือเป็นสมเด็จโตให้สนิทใจได้อย่างไร
พระเครื่องสมเด็จโต นั้นเวลานี้ใครจะหาได้? จะต้องใช้เงินเท่าไหร่ไปหา?
คิดแล้วหนาวกระเป๋าสตางค์
ถ้าจะเอาความเห็นของผมตอบเรื่องพระคะแนนของสมเด็จโตที่สร้างในอยุธยานั้น บอกได้ว่าไม่มีหรอกครับ
พระพุทธเจ้าตรัสว่าอย่าเชื่อเพราะว่านั่นเป็นข่าวลือ
ผมไม่เชื่อข่าวลือ
(เหรียญ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ผมตอบไม่ถูก ไม่รู้ว่าหมายถึงเหรียญรุ่นไหน ถ้าเป็นไปได้ให้ส่งรูปมา หรือไม่ก็วาดภาพให้เหมือนหรือใกล้เคียงที่สุดส่งมา จึงอาจบอกได้)
…………………………………………..
ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่ 229
วันที่ 16 กรกฎาคม 2535