หลวงตาสรวงปาณาติบาตหักคอปลาช่อน
พ่อบุญเลิศเล่าว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ได้เริ่มติดตามหลวงตาสรวงสมัยแรกๆ
ครั้งหนึ่งท่านพาเดินป่าขึ้นไปพักอยู่บนเขาในเขตอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีลูกศิษย์ไม่เต็มบาทร่วมเดินทางไปด้วยอีกคนหนึ่ง
ราวๆเวลาหลังเที่ยงวันเล็กน้อย หลวงตาได้บอกพ่อบุญเลิศให้ก่อไฟเตรียมไว้ ท่านจะไปหาปลามาให้กิน
สักพักใหญ่ๆ หลวงตาก็กลับมา ถือปลาช่อนตัวขนาดหน้าแข้งมาด้วย ปลาช่อนยังดิ้นกระแด่วๆ ไม่ทันตาย
พอมาถึงท่านหักคอปลาดังกร๊อบ
พ่อลุงบุญเลิศเล่าว่าถึงกับร้องโอ๊ยอยู่ในใจ
แต่แล้วก็ต้องตัดใจไม่ต้องคิดมาก
เป็นไงเป็นกัน
ก็มันหิวเต็มที
หลวงตาลงมือเผาปลาด้วยตัวเองอีกด้วย
เอาไม้คอยเขี่ยคอยพลิกไม่ให้ปลาไหม้
กลิ่นปลาช่อนเผา หอมจนน้ำลายแตกเต็มปาก
พอปลาสุกได้ที่ ท่านก็แบ่งปลาออกเป็น 3 ส่วน
ส่วนหางให้คนไม่เต็มบาท
ส่วนกลางให้พ่อบุญเลิศ
ส่วนหัวท่านฉันเอง
พ่อบุญเลิศเล่าว่า ปลาช่อนเผาฝีมือหลวงตาอร่อยมาก เนื้อปลาทั้งสดทั้งเหนียวพอดีเคี้ยวพอดีกิน
เสียแต่ว่ากินลำบากอยู่บ้าง
ต้องค่อยๆลอกหนังปลาออก
ไม่ให้ขี้เถ้าเปื้อนเนื้อปลา
ลอกหนังแล้วก็กองไว้ที่ก้อนหินข้างๆตัว
ก้างปลาก็คายออกกองรวมไว้ด้วยกัน
หลังจากนั้นไม่นาน.. หลวงตาเรียกให้ลุกขึ้น บอกพ่อบุญเลิศกับคนไม่เต็มบาทให้ตามท่านลงไปทำน้ำมนต์ให้ชาวบ้านที่หมู่บ้านตีนเขา
พอลงไปถึงหมู่บ้านก็เห็นพวกชาวบ้านเตรียมครุน้ำถังน้ำนั่งรอกันสลอนอย่างกับว่านัดกันไว้กับหลวงตาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ
หลวงตาเดินเอานิ้วมือจุ่มลงไปแกว่งในน้ำให้ทีละรายจนครบทุกคน
ชาวบ้านถึงแม้จะยากจนค่นแค้น แต่ก็มีศรัทธา พากันถวายเงินคนละ10 บาทบ้าง 20 บาทบ้าง ตามอัตภาพ
หลวงตาไม่รับเงินชาวบ้านแม้แต่คนเดียว
ท่านส่งเงินคืนให้ชาวบ้านทุกคนจนหมด
ชาวบ้านคนหนึ่งตักข้าวสารใส่ถุงมาให้พ่อบุญเลิศ ..บอกว่าให้เอาขึ้นไปหุงกินบนเขา
เมื่อกลับขึ้นมาถึงที่พักบนเขาแล้ว จวนมืดเต็มที พ่อบุญเลิศจึงเตรียมหุงข้าวกินมื้อเย็น
ตอนนั้นก็เห็นอะไรแปลกๆ ผิดสังเกตุ
คือหนังปลากับก้างปลาที่ลอกแกะทิ้งไว้บนก้อนหิน ทำไมกลายเป็นเปลือกมันสำปะหลัง
จำได้แม่นว่าหนังปลากับก้างปลาลอกทิ้งวางกองไว้บนก้อนหินนั้น
พอหายงง ก็คิดออกว่าอะไรเป็นอะไร..ก็ร้องเอะอะใส่หลวงตา
“.หลวงตาตั๋วข้าน้อย.. หลวงตาขี้ตั๋ว..”
(ตั๋ว,ขี้ตั๋ว =โกหก,หลอกลวง,)
หลวงตาก็เอาแต่หัวเราะหยุมๆ..ไม่พูดอะไร
พ่อบุญเลิศเล่าต่อไปว่า
” พ่อก็ไม่ได้เฉลียวใจตั้งแต่แรกเลย บนเขานั้นไม่มีน้ำ ไม่มีห้วย ไม่มีหนอง.. หลวงตาจะไปเอาปลาจากที่ไหน เอามาได้ยังไง .. เพื่อจะให้หายสงสัย ก็เลยลองๆเดินตามรอยเท้าหลวงตาไป จึงเห็นรอยขุดหัวมันสำปะหลังใหม่ๆอยู่หลังเขานั่นเอง “