เปิดหรือปิด

 

ทุกวันนี้โลกกำลังอยู่ในยุคพลาสติค
ข้าวของเครื่องใช้สารพัดทำด้วยพลาสติคหรือทำด้วยอะไรๆที่อยู่ในจำพวกเดียวกับพลาสติค
แม้กระทั่งรถยนต์ที่เมื่อก่อนเรารู้จักว่าทำด้วยโลหะเป็นส่วนใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้พลาสติคก็เข้าไปอยู่ในรถยนต์แทบทุกส่วน
ยังเหลือแค่จะทำเครื่องยนต์ด้วยพลาสติคเท่านั้น

พลาสติคกำลังจะครองโลก
ทุกหนทุกแห่งมีพลาสติคเกลื่อนกล่นไปหมด
แสดงว่าพลาสติคมีคนนิยมกันมาก

ที่นิยมก็ย่อมแปลว่าพลาสติคนั้นเป็นของดีมีประโยชน์แก่คนมากกว่าจะมีโทษ

ตอนนี้มีคนลุกขึ้นมาบอกว่าพลาสติคไม่ดีแล้วครับ
เขาแจ้งข้อกล่าวหาว่าพลาสติคนั้นเป็นฉนวนกั้นพลังจิต

 

เรียนคุณอำพล เจน

ผมติดตามอ่านสืบหาพระเครื่องดีมานานพอสมควรและเช่าบูชาพระที่คุณสร้างและแนะนำก็หลายองค์
ท้ายสุดก็บูชารูปเหมือนอุดปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันธ์1องค์ ชอยมากเลย อยากได้ปฐวีธาตุมานานแล้ว
คราวนี้มาถึงปัญหาที่ผมจะปรึกษาคุณอำพล…ผมข้องใจมานานแล้วในการเลี่ยมพระปิดหมดโดยพลาสติค
อ.ปถม อาจสาครบอกว่าต้องเลี่ยมเปิดหรือเจาะรูเพื่อให้อากาศเข้าได้ เพราะธาตุรู้(จิต)เดินได้ด้วยอากาศ
ท่านพอ.ชม สุคันธรัตน์ก็บอกอย่างเดียวกัน(เจาะรูใต้ฐาน)
และอ.ปถมบอกว่าไม่มีอะไรกั้นจิตได้จริง แกยอมรับ แต่องค์พระที่เสกไว้และเลี่ยมปิดหมด ไม่มีชีวิตจิตใจ จะแผ่พลังจิตที่มีอานุภาพออกมาไม่ได้ เพราะพลาสติคกั้นไว้ หรือถ้าออกมาได้ก็อ่อนมาก
ที่ผมอธิบายมานี้ค่อนข้างจะเข้าใจยาก ผมไม่ทราบจะใช้ถ้อยคำอย่างไรให้เข้าใจง่าย เอาเป็นว่าคุณอำพลซึ่งมีประสพการณ์ในด้านนี้และใกล้ชิดหลวงพ่อเก่งๆหลายต่อ หลายองค์ กรุณาบอกผมให้กระจ่างด้วยว่า จริงๆแล้วมันอะไรแน่…อะไรที่ถูกต้อง

ขอแสดงความนับถือ
วัชรา วุฒิพงศ์

เรื่องนี้เห็นจะบอกได้ว่าเป็นเรื่องของความเชื่อ ซึ่งถ้าหากยังเป็นเรื่องของความเชื่ออยู่ต่อไป ย่อมจะหาความจริงไม่ได้
ความเชื่อไม่ใช่ความรู้
รู้คือรู้เลยว่าอะไรจริงไม่จริง
เชื่อนั้นยังไม่ถือว่ารู้

แค่เชื่อว่าอะไรจริงไม่จริง ทั้งยังพิสูจน์ไม่ได้ และยังไม่มีวิธีพิสูจน์

คุณกับเพื่อนคนหนึ่งออกเดินทางด้วยกันจนไปพบทางสามแพร่ง
คุณกับเพื่อนไม่รู้จะไปทางไหนดี
ซ้ายหรือขวา

คุณกับเพื่อนไม่เคยรู้จักหรือเคยเดินมาก่อนทั้งสองทาง
แต่คุณต้องตัดสินใจว่าจะเดินไปทางไหนจึงจะถึงที่หมายที่คุณกำลังมุ่งหน้าไป

พอดีมีคนอยู่แถวนั้น 3 คน
คนหนึ่งบอกว่าให้ไปทางซ้าย อีกคนเถียงว่าต้องทางขวาจึงถูก อีกคนหนึ่งแย้งว่าทั้งซ้ายทั้งขวาถูกหมด
คุณจะเลือกเชื่อใคร

ทั้งสามคนต่างอ้างว่าเคยเดินทางมาแล้วจึงทราบว่าทางไหนถูกต้อง
ถึงตรงนี้คุณต้องเลือกเชื่อ
แต่ก็ยังสับสนสงสัยไม่แน่ใจอยู่ดี
จะเลือกเชื่อคนใดคนหนึ่งแสนยากลำบากชะมัด

เพื่อนร่วมทางของคุณก็บอกว่าไปทางนี้ดีกว่า เพราะว่าคนบอกน่าเชื่อถือกว่าใคร
ยิ่งทำให้คุณสับสนหนักเข้าไปอีก

บอกแล้วว่ามันเป็นเรื่องของความเชื่อที่ยังไม่มีความจริงปรากฏ
คุณจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกเชื่อแล้วครับ
ถ้าผมเป็นคุณ ผมก็เวียนหัวเหมือนกัน

เรื่องเลี่ยมพระปิดหมดด้วยพลาสติคกับเลี่ยมเปิดหรือเจาะรูให้พลังจิตออกได้นั้น
คนที่ลุกขึ้นมาอธิบายได้เป็นตุเป็นตะเป็นคุ้งเป็นแควผมก็เห็นว่ามันบ้าไปแล้วทั้งนั้น
ไม่รู้แล้วอย่าเดา
ถ้าเดาก็ผิด
แล้วก็กลายเป็นไอ้บ้าได้

พลาสติคเป็นฉนวนกั้นกระแสไฟฟ้าได้ กั้นน้ำได้ กั้นอากาศได้ ก็รู้อยู่
เพิ่งรู้ว่าพลาสติคกั้นพลังจิตได้อีกด้วย
เพิ่งรู้ว่าพลังจิตเดินได้ด้วยอากาศ
แสดงว่าอากาศเป็นสื่อนำพลังจิต เหมือนโลหะเป็นสื่อนำกระแสไฟฟ้า
แสดงว่าพลังจิตก็เหมือนกระแสไฟฟ้าด้วย เพราะว่าเมื่อเจอพลาสติคเป็นอันบ้อท่า

ความรู้ใหม่จริงๆครับ

ถ้าหากพลังจิตเป็นเหมือนไฟฟ้าที่อาศัยโลหะเป็นสื่อนำ พลังจิตก็ต้องอาศัยอากาศเป็นสื่อนำตามที่ท่านผู้รู้อธิบายไว้ ก็มีความจำเป็นต้องเปิดให้อากาศเข้าได้ คือเจาะรูไว้ให้อากาศเข้าออก เพื่อเป็นสื่อนำให้พลังจิตเข้าออกได้ด้วย

ผมเห็นว่าควรเจาะรูให้ใหญ่สักหน่อย พลังจิตจะได้เข้าออกสะดวก

รูเล็กออกจะอึดอัด

เวลามีเหตุคับขันพลังจิตจะออกมาช่วยไม่ถนัด เพราะว่ามัวงุ่มง่ามกับรูที่เล็กไปหน่อย

เจาะรูกว้างๆเลยครับ

เข้าออกคล่องปรี๊ดอย่าบอกใคร

ไหนๆจะบ้ากันแล้วก็บ้าให้สุดกู่ไปเลย

ใครจะทำไม

ใจเย็นๆครับใจเย็นๆ
มาพูดมาจากันแบบคนที่เขามีเหตุมีผลคุยกันเถิด

ท่านผู้รู้ที่บอกว่าพลังจิตไม่สามารถผ่านพลาสติคได้นั้น จำเป็นต้องยอมรับว่าพลังจิตเหมือนกระแสไฟฟ้า คือผ่านพลาสติคไม่ได้
แต่ตัวท่านเองกลับแสดงอาการไม่แน่ใจว่าพลาสติคกั้นพลังจิตได้เด็ดขาดจริงหรือไม่ เพราะท่านออกตัวว่าบางทีพลังจิตอาจผ่านพลาสติคได้บ้างแต่ก็จะผ่านออกมาเป็น พลังที่อ่อนมาก

คือถ้าผ่านได้ก็แค่ผ่านนิดหน่อยไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

ในเมื่อตัวท่านเองไม่แน่ใจ อย่างเห็นได้ชัด
แล้วทั้งหมดที่ท่านพูดมานั้นจะเชื่อได้อย่างไร

สมมุติว่าความเชื่อของท่านถูกต้องคือพลาสติคกั้นพลังจิตได้ ก็ต้องมาดูตรงที่พระเครื่องซึ่งบรรจุกล่องพลาสติคเรียบร้อยสวยงามแล้วนำเข้า พิธีปลุกเสกก็ย่อมจะเสกไม่เข้าเหมือนกัน

ถ้าหากว่าพลาสติคกั้นพลังจิตออกได้ ก็ต้องกั้นพลังจิตเข้าได้เช่นกัน

ต่อไปใครก็อย่าเช่าพระเครื่องที่บรรจุกล่องพลาสติคเข้าพิธีปลุกเสก
เพราะว่าจะเสกไม่เข้า
เมื่อเสกไม่เข้าก็ไม่ขลัง

ถ้าความเชื่อของท่านผิดล่ะ

คือพลังจิตไม่เหมือนกระแสไฟฟ้าแต่ว่าเหมือนสนามแม่เหล็กที่พลาสติคก็กั้นไม่ได้

ท่านจะว่ายังไง

เมื่อท่านเชื่อว่าพลังจิตเหมือนกระแสไฟฟ้าท่านจำเป็นต้องเชื่อว่าพลังจิตอาจเหมือนสนามแม่เหล็กก็ได้

บอกแล้วไงว่ามันก็แค่ความเชื่อที่ยังไปไม่ถึงความรู้จริง

ถ้าผมจะเชื่อว่าสนามแม่เหล็กกับพลังจิตนั้นเหมือนกันคือพลาสติคกั้นไม่ได้มั่ง

ใครจะลุกขึ้นมาเถียงล่ะ

สนามแม่เหล็กไม่ต้องอาศัยอากาศเป็นสื่อ ไม่ต้องอาศัยน้ำเป็นสื่อ

เมื่อไม่ต้องอาศัยอะไรเป็นสื่อ พลาสติคก็ไม่เป็นทั้งสื่อทั้งฉนวน

คือไม่มีผลอะไรกับสนามแม่เหล็ก

นี่ก็แค่ผมเลือกเชื่อทางใดทางหนึ่งที่จะเดินบริเวณทางสามแพร่งแล้วครับ

ผิดถูกก็ช่างผม

มีพลังมากมายที่คนเรายังไม่รู้จักอยู่ในโลกนี้ รวมทั้งพลังจิตที่ยังไม่มีใครรู้จริง นอกจากท่านผู้บรรลุถึงสภาวะของพลังจิตแล้วเท่านั้นจึงรู้

ผู้รู้จักพลังจิตจริงๆกลับไม่พูดอะไร

ผู้ไม่รู้กลับพูดเป็นต่อยหอย

ผมว่าพลังจิตเป็นเหมือนสนามแม่เหล็กแน่ๆ

รู้ได้ไงว่าพลังจิตเหมือนสนามแม่เหล็ก
ก็ผมมันต่อยหอยอีกคนไง
แล้วผมก็บ้าด้วย

อากาศมันร้อนครับ…

 

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน