เรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในภาพเก่าๆ
คนรุ่นนี้คงจะไม่รู้จักชื่อประสิทธิ ศิริบันเทิง
อาประสิทธิเป็นนักเขียนบทละครประจำโรงละครที่ตอนหลังเป็นโรงหนังศาลาเฉลิมไทย
ปัจจุบันถูกรื้อทำเป็นสวนสาธารณะหรือลานอะไรสักอย่างตรงหัวถนนราชดำเนินนั่นแหละ
อาประสิทธิเป็นคนแต่งเรื่องและเขียนบทละครเป็นอาชีพตั้งแต่สมัยเมืองไทยยังไม่มีหนังไม่มีโรงภาพยนตร์นู่นแหละครับ
อาประสิทธิเคยเล่าเรื่องป้ารวงทอง ทองลั่นทมให้ฟังหลายเรื่อง เช่นว่าก่อนจะมาเป็นรวงทอง ป้าชื่อ”ก้อนทอง” มาก่อน
และก็ยังเล่าเรื่องเพลงทุ่งรวงทองที่ชรินทร์ นันทนาครขับร้องอีกด้วย
เรื่องเล่าเกี่ยวกับเพลงทุ่งรวงทอง อาประสิทธิ ได้เล่าให้ฟังระหว่างขับรถกลับบ้าน เจอฝนตกหนักจนขับไม่ไหว ต้องจอดข้างทาง
ระหว่างรอฝนซาอยู่ในรถ ก็เล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟังหลายเรื่อง…แต่ผมกลับจำเรื่องเพลงทุ่งรวงทองได้แม่นไม่ลืม
เพลงทุ่งรวงทองประพันธ์เนื้อร้องโดย ป้าชอุ่ม ปัญพรรค์
ขณะที่ป้าชอุ่มกำลังแต่งเนื้อเพลงนี้ พอแต่งไปถึงตรงนี้ก็ติด แต่งไม่ออก
“ทุ่ง เอ๋ย ทุ่งรวงทอง
เห็นข้าวออกรวงน่ามอง
ดุจแสงทองสีแห่งศรัทธา
พี่มาได้ยล นฤมลนวลน้องบ้านนา
ถึงจะสวยตามประสา
ก็โสภาเหนือกว่านางใด
…ทุ่ง เอ๋ย ทุ่งรวงทอง
น้ำเปี่ยมอยู่เต็มฝั่งคลอง
เช่นพี่รัก น้องเปี่ยมฤทัย
…………………..”
อาประสิทธิก็เลยต่อให้ว่า
“สะพานเชื่อมคลอง
เหมือนพี่กับน้องเชื่อมใจ
ถึงอยู่แสนไกลแค่ไหน
เชื่อมหัวใจให้สมปอง ”
หลังจากนั้นป้าชอุ่มก็แต่งต่อจนจบเพลง
ที่เล่ามานี้ไม่มีอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อนหรอกครับ
แค่เล่าให้ฟังเพื่อกันลืม
ภาพประกอบจากอัลบัม..คุณ Wat Cartoon.
อาประสิทธิ ศิริบันเทิง (คนยืนถือแก้วเหล้า)
ส่วนคนนั่งซ้ายสุดก็เป็น อาสุรินทร์ ปิยนันท์(ผู้แต่งเพลง..อยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน..)
อาสุรินทร์เล่าว่าแต่งเพลงนี้บนรถบัสขณะเดินทางนำคณะไปร้องเพลงที่อยุธยา
มีการปรึกษากันว่าน่าจะแต่งเพลงให้คนอยุธยาฟังสักเพลง และสามารถแต่งเสร็จสมบูรณ์แล้วก็ซ้อมร้องอยู่บนรถก่อนถึงอยุธยาอีกด้วย…..
ถัดมาเป็นคุณจำเริญ บุญเสนอช่างภาพคอลัมน์ทดสอบปืน โดยพนมเทียน ในหนังสือจักรวาลรายสัปดาห์
ต่อมาก็อาสมยศ ทัศนพันธ์
ส่วนคนที่ยืนข้างอาประสิทธิใส่แว่นตาคือบิดาของคุณ Wat Cartoon)
—
อีกครั้งหนึ่ง..
ไม่แน่ใจว่าเคยเล่าหรือยัง
ราวๆปี ๒๕๑๗-๑๘ อาประสิทธิ ศิริบรรเทิงจัดเลี้ยงวันเกิดที่ร้านไก่ย่างหน้าสนามมวยราชดำเนิน
พาผมไปด้วย ให้นั่งข้าง คอยชงเหล้า(สมัยนั้นเป็นปีชงตลอด ต้องชงให้ผู้หลักผู้ใหญ่บ่อยๆ)
—
ขณะหนึ่งทุกคนเชียร์กันใหญ่ไปที่ท่านผู้หนึ่งซึ่งนั่งร่วมโต๊ะอยู่เงียบๆ
“เอ่าน่าร้องหน่อยๆๆ”
ท่านก็เฉยอยู่ แต่มีท่าทีกระสับกระส่ายเล็กน้อย ขยับตัวเล็กๆเหมือนเขินๆอะไรประมาณนั้น
อาประสิทธิจึงกล่าวว่า
“เพื่อนฝูงเขาอยากฟัง เอาหน่อยน่า”
ท่านผู้นั้นจึงลุกขึ้นยืน แล้วร้องปากเปล่า
“แสนเพลินสุขสมครั้งชมชื่นวารี… เห็นนางหนึ่งมีราศีพริ้งพรายยยย …”
ผมกระซิบกับอาประสิทธิอย่างทึ่ง !!
“โอ้โฮ..อาครับ เสียงของอาคนนี้เหมือนสมยศ ทัศนพันธ์เลย”
อาประสิทธิเขกหัวผมโป๊ก
พูดยิ้มๆว่า
“ก็นี่แหละสมยศล่ะ”