อภินิหารพระเครื่องบริษัทพุทธานุภาพ

สุนา แก้ววิจิตร(เสียชีวิตแล้ว)เป็นอดีตหัวหน้ากองร้อยคอแดงของฝ่ายรัฐบาลประชาธิปไตยลาว ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่พรหมา ผานางคอย

หลังจากลาวแตกได้อพยพเข้ามาหลบลี้ภัยพร้อมกองกำลังตามแนวชายแดนไทย

แต่ยังมีการเคลื่อนไหวต่อสู้กับรัฐบาลสังคมนิยมลาวอย่างลับๆอีกหลายปี โดยมีกองกำลังใหญ่อยู่ในดินแดนประเทศเพื่อนบ้าน(ขอสงวนชื่อ)

ที่เอ่ยถึง สุนา แก้ววิจิตร ก็เพื่อจะเล่าถึงอภินิหารพระเครื่องบริษัทพุทธานุภาพซึ่งหลวงปู่สิมเป็นผู้เสก

ราวปี ๒๕๓๓-๔ ผมย้ายไปอยู่อุบลฯใหม่ๆ ปกติเคยไปกราบหลวงปู่สิมทุกเดือนๆละครั้งเมื่อตอนที่ยังอยู่กรุงเทพฯ

พอมาอยู่อุบลฯก็ห่าง

ระหว่างนี้ได้รับอังคารธาตุหลวงปู่ดูลย์, หลวงปู่ขาวและหลวงปู่บัว (วัดป่าหนองแซง) มาจากใครไม่ทราบ (ลืม)

จึงคิดสร้างพระเครื่องขึ้นชุดหนึ่ง ได้จำนวน ๓๖ องค์

ขณะนั้นยังไม่รู้ว่าจะให้ใครเสก

พอดีกับกลุ่มเพื่อนที่สุรินทร์อยากไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน ขอให้ผมนำไป จึงบอกเงื่อนไขว่าต้องแวะถ้ำปล่องก่อน ไม่งั้นไม่พาไป

แล้วก็ได้โอกาสระลึกถึงหลวงปู่สิม อธิษฐานบอกธุระท่านว่า จะไปเพื่อขอให้ท่านเสกพระชุดนี้ให้

เพราะโอ้เอ้อยู่ในเมืองเชียงใหม่ประสาคนมากก็มากความ กว่าจะขยับเขยื้อนตัวไปถึงถ้ำปล่องก็ตกเข้าบ่าย ๓
หลวงพี่นพชัยปรารภกับผมเป็นส่วนตัวว่า

” นึกแปลกใจ..หลวงปู่มีกิจนิมนต์กำหนดว่าจะออกจากวัด ๑๐ โมงเช้า ท่านก็ไม่ไป ท่านรอจนบ่าย ๒ ท่านว่าสายเกินไปไม่ได้การแล้ว จึงออกจากวัดไปเมื่อชั่วโมงนี้เอง “
ผมก็พูดไม่ออก

เมื่อมาแล้วไม่พบหลวงปู่ธุระที่ตั้งใจก็พังเค้เก้ไม่เป็นท่า

หลวงพี่นพชัยก็ว่า

“เอางี้นะ โยมฝากพระไว้ก่อน อีกไม่นานวันจะมีพิธีสมโภชน์รูปเหมือนเท่าองค์จริงหลวงปู่สิมที่จะเอาไว้แทนองค์ท่าน
ที่นี่พอดี จะเอาเข้าพิธีนั้นให้”

๒ เดือนต่อมา หลวงพี่นพชัยจึงฝากพระชุดนี้ให้เพื่อนของผม นำไปคืนให้ถึงเมืองอุบล ฯ
ท่านฝากบอกว่า พระชุดนี้ได้อยู่ในพิธี โดยที่ได้กราบเรียนให้หลวงปู่สิมทราบแล้วด้วย

ต่อมาได้ไปกราบหลวงปู่พรหมา ท่านก็บ่นว่า ไม่ชอบใจสุนา เพราะไม่ซื่อสัตย์ รับเงินช่วยเหลือจากอเมริกามาแล้วแทนที่จะเอาไปช่วยกองกำลังกู้ชาติของตน ดันยักยอกเอาไปให้เมียซื้อทองหยองใส่ตัว

“ฟังนะลูก.. คอยฟังเสียงปืน ..นัดเดียวทะลุหนัง.. พ่อจะถอดของออกจากสุนาให้หมด”

ท่านพูดออกจากปากอย่างจริงจัง จนผมตกใจ นึกพรั่นว่าคราวนี้สุนาตายโหงแน่

เพราะกลัวสุนาตาย จึงให้พระชุดนี้ไป ๑ องค์ สั่งว่าให้พกติดตัวตลอด โดยที่สุนาก็ไม่รู้ว่าหลวงปู่พรหมาได้พูดอะไรไว้

DSC04148 DSC04149

DSC04150

ราว ๑ เดือนต่อมา สุนาแวะมาหาผมที่อำเภอวารินฯ เล่าเรื่องปฏิบัติการสารพัดให้ฟัง แล้วก็ออกปากขอพระอีก

“ก็ให้ไปแล้วจะเอาไปทำไมอีก”
“จะเอาไปให้ลูกน้องใส่คอคนละองค์”
“ไม่ได้หรอก พระไม่มีพอจำนวนคนขนาดนั้น แล้วก็แจกไปจนเกือบหมด เหลือไม่กี่องค์”

ถามเขาว่าทำไมจึงมาขอ
พอเขาเล่าให้ฟังก็เกิดอัศจรรย์ใจ

เขาว่าระหว่างเดินแถวเรียงหนึ่งลาดตระเวณในป่า
ต้องระวังกับระเบิดให้ดี

เมื่อคนที่เดินอยู่ข้างหน้ายกเท้าขึ้น
คนเดินตามหลังต้องสอดเท้าวางทับรอยเท้าคนข้างหน้าทันที
อย่าให้ผิดรอย
เพราะอันตรายมาก

ปรากฏว่าเกิดเหตุผิดพลาดจนได้

พอสุนาก้าวเท้าตามรอยคนข้างหน้าผ่านไป คนตามหลังวางเท้าลงทับรอยของสุนา ก็เกิดเหตุระเบิดตูมขึ้น
คนที่เดินนำหน้าสุนากับคนที่เดินตามหลังตายคาที่ สภาพศพดูไม่ได้ แขนอยู่อีกที่ ขาอยู่อีกที่ ศพฉีกขาดเละเทะ
สุนาอยู่ตรงกลางระหว่างคนทั้งสอง ถูกดินโคลนจากแรงระเบิดขุดขึ้นถมจนแทบมิดตัว
เขาปลอดภัย ไม่มีบาดแผล ไม่ได้บาดแจ็บอะไรเลย

พระชุดนี้ผมตั้งชื่อว่า บริษัทพุทธานุภาพ

องค์สุดท้ายที่ผมแขวนอยู่ก็ได้ช่วยชีวิตผมจากรถคว่ำที่ธาตุพนม
รถเก๋งมาสด้า ๓๒๓ รุ่นที่ตาไฟเปิดปิดได้นั่นแหละครับ
พังยับจนต้องขายทิ้งเป็นเศษเหล็กไม่กี่หมื่น

หลังรถคว่ำไม่ถึงเดือน อ.เบิ้มกับอ.อนันต์ชวนไปกราบอาจารย์โกวินทร์ที่กำแพงแสน นครปฐม
อาจารย์โกวินทร์ท่านเห็นหน้าผมก็เอะอะว่า

“คุณตายไปแล้วนี่นา..คุณรอดมาได้ยังไง ”

สักพักท่านจึงรำพึงว่าผมรอดตายมาได้เพราะบุญบารมีที่สร้างไว้
แต่ในใจผมนึกเถียงว่า ผมรอดตายมาได้ก็เพราะบริษัทพุทธานุภาพ

ขออภัยไม่มีภาพพระให้ดู(ไม่ได้ถ่ายภาพไว้)
องค์สุดท้ายที่เชื่อว่าได้ช่วยชีวิตตนเองจากรถคว่ำ ได้มอบให้ พี่ประพันธ์ เศรษฐมนตรี ไปหลายปีแล้ว

ทุกวันนี้ไม่มีพระเหลืออีกเลย

( เมื่อไม่นานมานี้ แวะไปหาน้องสาวที่อำเภอวารินฯ น้องสาวเอาพระ ๒-๓ องค์ออกมาถามว่าเป็นพระอะไรบ้าง.. ๑ ในนั้นคือบริษัทพุทธานุภาพ ไว้มีโอกาสได้ย้อนกลับไปอีกในคราวหน้าจะถ่ายภาพมาให้ชม)

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน