พระธาตุโพ่น
พระธาตุโพ่น
พระธาตุโพน
ພະທາດໂຜ່ນ
แขวงสุวรรณเขต
ແຂວງສະຫວັນນະເຂດ
แขวงสะหวันนะเขต
พระธาตุโพ่น เดิมเป็นปราสาท(ຜາສາດ)สร้างขึ้นแต่สมัยขอมเรืองอำนาจ
เป็นรูปแบบหนึ่งที่ถูกเรียกว่า-การแปลงปราสาทเป็นธาตุ
คือเอาสิ่งปลูกสร้างตามคติพุทธครอบทับสิ่งปลูกสร้างคติพรามหณ์ในสมัยหลัง
คนลาวเชื่อว่าพระธาตุโพ่นสร้างขึ้นพร้อมกันกับพระธาตุอิงฮัง
แต่ดูเหมือนว่าพระธาตุโพ่นจะเป็นที่ศรัทธาของชาวลาวและชาวไทยมากกว่าพระธาตุอิงฮัง
ร่ำลือว่าศักดิ์สิทธิ์ทรงมหิทธานุภาพ ผู้ใดบนบานสิ่งใดมักได้ผลสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์
ชิ่อพระธาตุโพ่นมีการเขียนไว้ต่างๆกัน
โพน (ໂພນ), โพ่น(ໂພ່ນ) และโผ่น (ໂຜ່ນ)
โพน (ໂພນ)มีความหมายว่าดินที่พูนสูงขึ้นเรียกว่าดินพูน หรือดินพูนขึ้นของจอมปลวกก็เรียกว่าโพนปลวก
โพ่น (ໂພ່ນ)และโผ่น (ໂຜ່ນ)ต่างแต่สำเนียงที่ออกเสียงเป็น โพ่น หรือ โผ่น
มีความหมายเป็นอย่างเดียวกันว่า พุง
ไม่ใช่ พุง ในความหมายว่าคนอ้วนลงพุง
แต่หมายถึงท้องของคนที่บรรจุกระเพาะอาหารตับไตไส้พุงไว้ข้างในทั้งหมด
ขี้โพ่นก็เรียก – ขี้โผ่นก็เรียก
คนไทยนิยมเขียนว่า-โพ่น(ໂພ່ນ) แต่คนลาวนิยมเขียนว่า-โผ่น(ໂຜ່ນ)
(อยู่อำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ก็มี”บ้านหนองตาโผ่น” เรื่องเล่าเดิมๆบอกว่า ที่นี่เคยมีหนองน้ำซึ่งคนชอบเอา(ขี้)โผ่นของวัวควายมาทิ้งใส่บ่อยๆ)
—-
ພະທາດໂຜ່ນ ຫຼື ເຈົ້າແທ່ນຄໍາເຫຼືອງ ເມືອງໄຊພູທອງ ແຂວງສະຫວັນນະເຂດ
ຕັ້ງຢູ່ຫ່າງຈາກເທສະບານເມືອງໄຊພູທອງປະມານ 22 ກິໂລແມັດ ຕາມເສັ້ນທາງເລກທີ 13 ໃຕ້ ມຸ່ງໜ້າສູ່ແຂວງຈໍາປາສັກ,
ຕາມຕຳນານໄດ້ກ່າວໄວ້ວ່າ: ພະທາດອົງນີ້ສ້າງຂຶ້ນໃນຕອນຄ່ຳຂອງວັນພຸດເດືອນ 12 ພສ 236
ສ້າງ ດ້ວຍຫີນເຂົ້າຈີ່ ຫຼື ເອີ້ນວ່າ (ຫີນໜາມໜໍ່) ກໍເປັນທາດອຸໂມງ (ຮູບໂອຂວ້ຳ) ກວ້າງດ້ານລະ 12 ວາ
ສ້າງມື້ໜຶ່ງກັບຄືນໜຶ່ງກໍສຳເລັດມາເຖິງປະຈຸບັນນີ້ມີອາຍຸເຖິງ 2.500 ປີ,
ສະນັ້ນສະຖານທີ່ແຫ່ງນີ້ຈຶ່ງຖືວ່າເປັນມໍລະດົກຕົກທອດ,
ເປັນຊັບສົມບັດມິ່ງເມືອງທີ່ມີຄ່າສູງ,
ໂດດເດັ່ນທາງດ້ານວັດທະນະທຳອັນລ້ຳຄ່າ ແລະເປັນປະຫວັດສາດ
ຊຶ່ງຕິດພັນກັບແບບແຜນດຳລົງຊີວິດຂອງປະຊາຊົນລາວບັນດາເຜົ່າມາແຕ່ດຶກດຳບັນ
ແລະຍັງເປັນສະຖານທີ່ທ່ອງທ່ຽວທາງດ້ານວັດທະນະທຳທີ່ສຳຄັນ ແລະມີຊື່ສຽງອີກແຫ່ງໜຶ່ງຂອງ ແຂວງສະຫວັນນະເຂດ.
พะทาดโผ่น หลือ เจ้าแท่นคำเหลือง เมืองไซพูทอง แขวงสะหวันนะเขด
ตั้งยู่ห่างจากเทสะบานเมืองไซพูทอง 22 กิโลแม้ด ตามเส้นทางเลกที่ 13 ใต้ มุ่งหน้าสู่แขวงจำปาสัก,
ตามตำนานได้ก่าวไว้ว่า : พะทาดองนี้ส้างขึ้นในตอนค่ำของวันพุดเดือน 12 พส 236
ส้างด้วยหินเข้าจี่ หลือ เอิ้นว่า : (หินหนามหน่อ)ก่อเป็นทาดอุโมง(ฮูปโอขว้ำ)กว้างด้านละ 12 วา
ส้างมื้อหนึ่งกับคืนหนึ่งก็สำเล็ดมาเถิงปะจุบันนี้มีอายุ 2,500 ปี,
สะนั้นสะถานที่แห่งนี้จึงถือว่าเป็นมอละดกตกทอด,
เป็นสมบัดมิ่งเมืองที่มีค่าสูง,
โดดเด่นทางด้านวัดทะนะทำอันล้ำค่า และเป็นปะหวัดสาด
ซึ่งติดพันกับแบบแผนดำลงซีวิดของปะซาซนลาวบันดาเผ่ามาแต่ดึกดำบัน
และยังเป็นสะถานที่ท่องเที่ยวทางด้านวัดทะนะทำที่สำคัน และมีซื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของแขวงสะหวันนะเขด.
—
ภูมิประเทศโดยรอบสถานที่พระธาตุโพ่นมีต้นตาลปลูกไว้พอสมควร
ชาวบ้านสามารถผลิตน้ำตาลจากลูกตาลและนำออกมาวางขายภายในบริเวณวัด
ว่ากันว่าน้ำตาลจากต้นตาลหวานหอมอร่อยมาก
มีผู้ตั้งข้อสังเกตุดูว่าทำไมทุกๆที่ซึ่งมีปราสาทสมัยขอมตั้งอยู่ จึงมักจะพบเห็นว่ามีต้นตาลอยู่ด้วยเป็นจำนวนไม่น้อย
นั่นเพราะเหตุว่า คติเครื่องบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิของชาวฮินดู นิยมใช้น้ำตาลจากต้นตาล
บางทีการปลูกต้นตาลไว้รอบๆบริเวณปราสาทก็เพื่อประโยชน์เดียวกัน ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นเครื่องสักการะบูชาแล้ว ยังจะใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารคาวหวานได้อีกด้วย
—
การเดินทางไปวัดพะทาดโผ่น สามารถทำได้ ๒ ทาง
1/ใช้เส้นสาย 9B เมืองไกสอน – บ้านหลัก 35 ระยะทางประมาณ 30 กว่า กม. เลี้ยวขวาไปตามเส้นสาย 13 อีกประมาณ 15-16 กม. แล้วเลี้ยวขวาไปเมืองไซพูทองอีกราว 20 กว่า กม.
2/ ใช้เส้นทางเลียบแม่น้ำโขงลงไปทางใต้ จะใกล้กว่าครึ่งต่อครึ่ง คือราวๆ 30 กม.เท่านั้น เส้นทางนี้จะผ่าน”เฮือนหิน” ซึ่งเป็นปราสาทขอมหลังเล็กๆด้วย