สีลัพพตปรามาสของคนเล่นพระ
ความเข้าใจผิดที่ดูเหมือนว่าจะผิดรุนแรง และขยายวงออกไปเรื่อยๆของคนเล่นพระที่จะพูดถึงในคราวนี้อย่างน้อยมี 2 เรื่อง คือ
เรื่องหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค และหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง
เริ่มที่หลวงพ่อพรหมก่อน
เดี๋ยวนี้คนเขาเล่นเหรียญแจกทานเนื้อกะไหล่ทองแพงมากกว่าเหรียญแจกทานแบบปกติทั่วไป
ซึ่งเล่นหากันมานานเน เขาพูดกันว่าเหรียญแจกทานกะไหล่ทองเป็นพิมพ์กรรมการ จึงต้องแพงกว่า
ซึ่งเป็นเหตุผลที่คนทั่วไปยอมรับกันแล้ว
แต่ข้อเท็จจริงไม่ใช่อย่างนั้น
เรื่องนี้คุณขจรศักดิ์ สุจิกุลได้อธิบายว่า
เหรียญแจกทานกะไหล่ทองเป็นเหรียญที่สร้างแจกในงานศพหลวงพ่อพรหม ถือว่าเป็นเหรียญที่ไม่ทันหลวงพ่อ
พูดง่ายๆคือหลวงพ่อไม่ได้เสก เพราะว่าท่านมรณภาพไปแล้ว
พ.ต.อ.(พิเศษ) อภัย วรดิถี อดีตรองผู้การสันติบาล ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิหลวงพ่อพรหมหารายได้ให้วัดช่องแค ได้กรุณาให้รายละเอียดว่า เมื่อหลวงพ่อพรหม มรณภาพลง ทางวัดโดยคณะกรรมการลงความเห็นว่า ควรจะสร้างเหรียญที่ระลึกงานศพสักรุ่นหนึ่ง จึงลองค้นดูบล็อกเก่าๆที่ทางวัดเก็บรักษาไว้ พบว่าบล็อกเหรียญแจกทานยังมีสภาพดี จึงนำบล็อกนี้มาปั๊มเหรียญแจกทานขึ้นมาอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อแจกในงานบำเพ็ญกุศลศพหลวงพ่อหลังจากปั๊มขึ้นมาแล้ว จึงคิดจะทำให้เกิดข้อแตกต่างจากเหรียญที่หลวงพ่อได้เสกไว้ก่อนแล้ว โดยการไปทำกะไหล่ทองเพื่อให้แปลกแยกจากกัน
ครั้นถึงทุกวันนี้การกลับกลายเป็นอื่น
คนหันมานิยมเพราะเข้าใจผิดว่า เป็นเหรียญพิเศษกว่าเหรียญปกติที่ใครต่อใครต่างก็รู้จัก
แต่เหรียญแจกทานกะไหล่ทองก็มิได้หมายความว่าไม่มีพิธีปลุกเสกนะครับ เป็นเหรียญที่ได้รับการปลุกเสกอย่างดีโดยอาจารย์แบ้งค์ เจ้าอาวาสวัดช่องแคองค์ต่อจากหลวงพ่อพรหม
ใครจะเชื่อ ไม่เชื่อก็ช่าง ได้พูดออกมาบ้างแล้วก็หายกลุ้มใจเยอะแยะเลย
ยังมีรูปเหมือนหลังเตารีดของหลวงพ่อพรหมอีกรุ่นหนึ่งที่จะต้องพูดถึงอีกหน่อย ซึ่งปัจจุบันเห็นว่ามีเนื้อทองแดงออกมา แล้วคนก็นิยมเหมือนกัน
พ.ต.อ.(พิเศษ)อภัย วรดิถี ก็ได้ยืนยันว่ารูปเหมือนหลังเตารีดมีเนื้อเดียวเท่านั้นคือ เนื้อทองระฆัง
บอกไปแล้วจะเชื่อไม่เชื่อก็ช่างอีกเหมือนกัน
สีลัพพตปรามาสนั้นแก้ยาก
ขอให้พยายามช่วยกันแก้ไข อีกหน่อยก็จะถูกต้องตามข้อเท็จจริงไปเอง
เรื่องของหลวงพ่อพรหมมีเท่านี้ ต่อไปจะอธิบายเรื่อง พระพิมพ์ห้าเหลี่ยมเล็ก(รุ่นสุดท้าย)ของหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง ซึ่งออกอาการหนักหนาสาหัสกว่าหลวงพ่อพรหม
(ห้าเหลี่ยมรุ่นสุดท้าย พิมพ์อกเล็ก)
เพราะเดี๋ยวนี้เล่นของปลอมเป็นพิมพ์นิยม จนถึงกับแพงกว่าของแท้ไปแล้ว
คนเล่นพระในปัจจุบันนี้เขาพากันเห็นว่า พระพิมพ์ห้าเหลี่ยมเล็กของหลวงพ่อชามี 2 พิมพ์คือ พิมพ์อกเล็ก และพิมพ์อกใหญ่ ซึ่งคือพิมพ์นิยมแพงกว่าพิมพ์อกเล็กเยอะ
เรียกว่าพิมพ์อกใหญ่เป็นของปลอม แต่กลับได้รับความนิยมกว่าพิมพ์อกเล็ก ซึ่งเป็นของแท้
คนสร้างพิมพ์อกใหญ่ตอนนี้คงจะมีความสุขกับสีลัพพตปรามาสของคนเล่นพระเป็นอย่างยิ่ง
นี่เป็นเรื่องที่ผมกลุ้มใจมานาน แต่ไม่เคยได้พูด
ผมเริ่มเห็นพิมพ์อกใหญ่ที่เป็นของปลอมออกมาอาละวาดแบบนิ่มๆตั้งแต่ประมาณปี 2530 – 2531 โดยปล่อยปนกับของแท้เข้าไปในรังของคนมีสตางค์ที่เก็บหลวงพ่อชาเป็นหลัก
คนที่มีตางค์เก็บหลวงพ่อชาก็เป็นคนที่นับถือหลวงพ่อจนถือว่าเป็นศิษย์คนหนึ่ง จึงตั้งหน้าตั้งตาเก็บพระของหลวงพ่อชาทุกรุ่นทุกพิมพ์แบบไม่จำกัดจำนวน ตั้งแต่ราคา 20 บาทจนแม้จะขยับเป็นหลายร้อยก็เก็บตลอดมา
เรียกว่ามีพระของหลวงพ่อชานับพันองค์
แต่แกไม่ใช่เซียนดูไม่ออกว่าของปลอมของแท้ต่างกันอย่างไร เห็นว่าเป็นพระหลวงพ่อก็เก็บหมด ไม่คิดอะไร
ต่อมาพระของหลวงพ่อเริ่มปรากฏชื่อเสียง เป็นที่นิยมและเป็นราคา คนที่รู้จักแกก็ไปขอแบ่ง แกก็แบ่งให้เพราะว่ามีเยอะ แถมยังมีกำไรอีกหลายเท่า
นี่แหละครับ อกใหญ่ก็ปนเปกับอกเล็กออกมาเรื่อยๆ
คนเล่นพระก็เชื่อแกเห็นว่าเป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อ ย่อมเชื่อถือได้
อกใหญ่ก็กลายเป็นที่ยอมรับ เพราะหลุดออกมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือแบบนั้น
คนช่างสังเกตุก็เอะอะถามแกว่าทำไมพระมี 2 พิมพ์ แกก็ตกใจพิจารณาดูก็เห็นว่า มี 2 พิมพ์จริง แต่ว่าพิมพ์อกใหญ่ที่แกเก็บมีน้อยกว่าอกเล็ก แกกลับหวงพิมพ์อกใหญ่ขึ้นมาอีกคน ก็เลยยิ่งเห็นว่าอกใหญ่มีค่ามากกว่าและยกให้เป็นพิมพ์นิยมไปเลย
กลุ้มใจไหมครับ
ข้อเท็จจริงของพระพิมพ์ห้าเหลี่ยมเล็ก(รุ่นสุดท้าย)ของหลวงพ่อชานั้น ผมได้รับคำอธิบายจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง(ขอสงวนนาม)ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้สร้างคือ ศูนย์ยุทธการทหารอากาศ
โดยท่านหัวหน้ากลุ่มคือ ได้กราบขออนุญาตสร้างพระพิมพ์ห้าเหลี่ยมจากหลวงพ่อชา โดยทำเป็นรูปพระประธานในอุโบสถวัดหนองป่าพง
เมื่อทำบล็อกเสร็จแล้วได้นำบล็อกมาถวายหลวงพ่อพร้อมมวลสาร เพื่อมาผสมกับมวลสารหลวงพ่อสำหรับสร้างพระชุดนี้ มวลสารของกลุ่มยุทธการทหารอากาศคือ ข้าวก้นบาตรและเกศาครูบาอาจารย์สายกัมมัฏฐานเช่น หลวงปู่เทสก์, หลวงปู่ขาว, หลวงปู่ฝั้น, หลวงปู่แหวน, หลวงปู่ตื้อ ฯลฯ บดเป็นผงละเอียด ส่วนมวลสารของหลวงพ่อ ไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง แต่ก็มีเกศาของหลวงพ่อผสมอยู่ทุกองค์
พระชุดนี้ปั๊มโดยพระเณรในวัดหนองป่าพงทั้งหมด ส่วนหนึ่งนำลงบรรจุในพระอุโบสถ(ว่ากันว่าบรรจุไว้ใต้ฐานพระประธาน) อีกส่วนหนึ่งแจกจ่ายแก่บุคคลภายนอก
ที่สำคัญคือกลุ่มผุ้สร้างได้ยืนยันว่า พระพิมพ์ห้าเหลี่ยม มีพิมพ์เดียว คืออกเล็กเท่านั้น
อกใหญ่ไม่มี
ฉะนั้นใครที่เห็นวาอกใหญ่เป็นพิมพ์นิยม ขอให้กลับลำซะ อย่าดันทุรังเลย
สงสารคนที่มาสนใจพระหลวงพ่อทีหลังเถอะ เขาไม่รู้เรื่องอะไร พาเดินเข้ารกเข้าพงก็ก้มหน้าเดินตามไปโดยไม่สงสัย ไม่เฉลียวใจสักนิด
ก็บอกกันมาอย่างนี้ จะเชื่อไม่เชื่อก็ช่าง
สีลัพพตปรามาส มันเป็นเรื่องของตัวใครตัวมันครับ
อยากโง่ก็โง่ไปเลย
อยากฉลาดก็ฉลาดไปเลย
เชิญตามอัธยาศัยครับ
……………………………………………..
ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ฉบับที่537 16 พ.ค. 2548