เสขิยวัตรกับโลกวัชชะ
ผู้ที่ยอมหักไม่ยอมงอ
โดยเฉพาะหัวดำผมดกนี่ล่ะ
ทำท่าว่าเคร่งครัดต่ออาบัติ
อะไรๆนิดๆหน่อยๆอนุโลมไม่ได้
อลุ้มอล่วยก็ไม่ได้
พระวินัยเป๊ะๆ
โกนหัวห่มเหลืองไปอยู่วัดสักหน่อยดีไหม
แค่วันแรกที่ได้เป็นพระ รับรองว่าคนแบบนี้ต้องมีเรื่องต้องอาบัติแทบจะทันที
—
เพื่อนผมบวชเป็นพระอยู่กับหลวงปู่สิม ถ้ำปล่อง หลังจากสึกออกมา ยอมรับว่า
“บวชพระนี่ยากฉิบหาย กูแม่งอาบัติทั้งวัน”
ฉันอาหาร..เผลอวางช้อนกระทบบาตรดังแกร๊ก…อาบัติแล้ว
เสขิยวัตร !
อาบัติมารยาท
สมบัติผู้ดีพระว่างั้นเถอะ
เสขิยวัตรเป็นอาบัติเบา
พระด้วยกันก็ปล่อยๆวางๆไม่จ้องจับผิด
รู้ว่าไม่ได้เกิดขึ้นด้วยเจตนาจะทำผิด
เป็นความเผลอเรอ ที่ใครที่ยังอ่อนพรรษาย่อมเผลอได้ทั้งวัน
เหมือนเผลอเกาก้น เกาดากนั่นแหละ ..ดูไม่งาม
เสขิยวัตรเป็นบาปมารยาทเท่านั้น
ไม่เหมือนบาปมั่วสีกาค้ายาบ้านะครับ
—
เรื่องแบบนี้แหละที่โยมหัวหงอกหัวดำทำเป็นทนไม่ได้
เห็นพระทำอะไรที่ผิดเสขิยวัตรก็เป็นฟืนเป็นไฟ
—
ผมเคยเอาภาพพระกับสัตว์เลี้ยงมาลงให้ดูหลายครั้ง
ไม่เคยเห็นผู้เคร่งธรรมวินัยคนไหนโวยวายว่าพระกับสัตว์เลี้ยงนั้นผิดพระวินัยสักคน
ร้อยทั้งน้อยเห็นเป็นภาพเมตตาสัตว์
พากันแสดงความชื่นชมนิยมยินดีอีกด้วย
ไม่เห็นเป็นอื่น
ไม่รู้สึกสะกิดใจว่าพระกำลังทำผิดพระวินัย
—
จริงๆแล้วว่าเรื่องแบบนี้อนุโลมให้กันได้
ถ้าไม่เดือดร้อนรำคาญใจตนเองจนถึงกับตำหนิพระ ก็อลุ้มอล่วยให้กันได้ไม่เป็นไร
—
ในทางปรมัตถ์
เรื่องของกายกับจิตแยกออกจากกัน
ผัสสะที่เกิดขึ้น หากไม่ส่งผลถึงใจ ว่าใจมีความยินดี ก็ไม่เป็นไร
—
หลวงปู่สรวงสมัยยังมีชีวิตอยู่
จับนมผู้หญิงบ่อยๆ
จะปรับอาบัติหลวงปู่สรวงเรื่องจับนมผู้หญิงก็ทำได้
—
หลวงปู่จับนมผู้หญิง มีทั้งคนตำหนิและไม่ตำหนิ
คนเลิกนับถือหลวงปู่สรวงก็มี
—
แต่คนผู้มีทุกข์ไปขอให้หลวงปู่แก้ไข กลับไม่ว่าอะไรหลวงปู่สรวงสักคำ
—
หลายคนอยากให้หลวงปู่จับนมเมียตัวเองที่กำลังใกล้จะตายเพราะงอมแงมด้วยโรคาพยาธิก็มี
ไม่หึงไม่หวงนมเมียสักคน
—
เรื่องอาบัติแนวนี้ ไว้จะเถียงแทนหลวงปู่ทีหลังก็แล้วกัน
—
คำศัพท์ง่ายๆ …อนุโลม อลุ้มอล่วย ..
เอาหูไปนาเอาตาไปไร่
ไม่ยินไม่ยล
ทำได้ไม่ยากอยู่แล้ว
แต่ถ้าทำโดยอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจพระวินัยได้ก็จะดียิ่งขึ้น
—
พระสัมผัสสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ไม่ได้เลี้ยงก็ตาม
ไม่ควรทำนะครับ
มีพระวินัยห้ามไว้
คนผู้เป็นฟืนเป็นไฟในเรื่องอื่น กลับไม่เห็นว่านี่เป็นเรื่องผิด
—
ที่พูดมาทั้งหมดนี้ สารภาพว่ากำลังจะโยงไปหาเรื่องที่ถูกกับตัณหาของตนเอง
คือเรื่องพระขี่จักรยาน
ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนไม่ยอมให้พระทำ
จะว่าไปแล้วพระจะขี่จักรยานได้หรือไม่ อยู่ที่การตีความตามพระวินัย
เหมือนศาลตีความคดีต่างๆตามถ้อยคำแห่งกฏหมายนั่นแหละครับ
จับประเด็นห้ามกับไม่ห้ามที่มีบัญญัติอยู่ในพระวินัยทั้งสองประเด็น เอามาพิจารณาตามสถานะการณ์แล้วก็ตัดสินไป..ที่เหลือก็รอดูสังคมจะเห็นด้วยหรือไม่
—
ถึงจะมีการอนุโลมให้พระขี่จักรยานได้ ก็ยังสงสัยว่าจะมีพระยินดีที่จะขี่จักรยานสักกี่องค์
—
บางเรื่องปล่อยวางได้มันก็ไม่หนัก
จะขี่ก็ได้ ไม่ขี่ก็ได้
สังคมไม่จับผิด
ยอมรับให้ได้เหมือนยอมรับพระพายเรือซึ่งก็ผิดพระวินัยข้อเดียวกันกับพระขี่จักรยาน
นี่จึงเห็นธรรมถนัดอีกข้อคือโลกลำเอียง
เพราะนี่คือโลกวัชชะ
ถ้าเราไม่ว่า
พระก็ทำได้ไม่ผิด
ไม่เหมือนอาบัติหนักๆลากลงนรกโลกันต์ข้ออื่นๆ
—
ก่อนจะต่อต้านเรื่องพระขี่จักรยาน
ชำระล้างเรื่องพระทำผิดวินัยหนักๆระดับปาราชิกให้ได้เสียก่อนจะดีกว่า
——-
พระขี่จักรยาน-ผิดพระวินัยหรือไม่ ?
https://ampoljane.com/2016/12/30/786/